วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

โครงการงานเทศกาลคริสต์มาสและวันปีใหม่ พ.ศ.2552

โครงการ
งานเทศกาลคริสต์มาสและวันปีใหม่ พ.ศ.2552
ชื่อโครงการ : โครงการงานเทศกาลคริสต์มาสและวันปีใหม่ พ.ศ.2552
กิจกรรมในโครงการ :
-กิจกรรมแสดงผลงานทางวิชาการของกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม
-กิจกรรมการออกร้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
-กิจกรรมสอยดาว
-กิจกรรมสวนสนุก
-กิจกรรมสวนอาหาร
-กิจกรรมเวทีกลาง ประกอบด้วย การขับร้องเพลงของดนตรีวงบูรณ์แบน, การแสดงของนักเรียนชั้นอนุบาล 1- ประถมศึกษาปีที่ 2 , การประกวดหนูน้อยคริสต์มาสและปีใหม่ 2552 ทั้งชายและหญิง อ.1-ป.2 , การแสดงของนักเรียนช่วงชั้นที่ 1,2 และ 3
-กิจกรรมการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง
-กิจกรรมการออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคของโรงเรียน
-การออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคของพ่อค้า แม่ค้าและบุคคลทั่วไป
แผนงาน : การบริหารงานทั่วไป
ผู้รับผิดชอบโครงการ : ผู้อำนวยการโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา และประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
ลักษณะโครงการ : โครงการเริ่มใหม่
สถานที่ดำเนินโครงการ : ภายในบริเวณโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา
ระยะเวลาดำเนินการ : วันที่ 24-25 ธันวาคม พ.ศ.2551


หลักการและเหตุผล
วันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ ประชาชนเกือบทุกประเทศทั่วโลก ต่างพากันจัดงานเฉลิมฉลองกันโดยทั่วไป ซึ่งเป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา บ้างก็จัดงานเล็กๆ ภายในครอบครัว ในหน่วยงาน หรือในองค์กรต่างๆ และในบางประเทศรัฐบาลก็เป็นเจ้าภาพในการจัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ประชาชน
การจัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ มีกิจกรรมและประเพณีที่ดีงามบางอย่างได้ถูกละเลยไป เช่น การทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ การมอบของขวัญและขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ การส่งความสุขด้วย ส.ค.ส. ฯลฯ แต่ในสภาพปัจจุบัน เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ มักไปเน้นหนักที่การจัดงานเฉลิมฉลอง งานเลี้ยงสังสรรค์ การแลกเปลี่ยนหรือจับสลากของขวัญ ภายในกลุ่มเพื่อนและคนรู้จัก ขาดความรู้ความเข้าใจในประเพณีและวัฒนธรรมบางประการดังกล่าวที่หายไป ดังนั้นหากสามารถที่จะหาวิธีเสริมสร้างองค์ความรู้ดังกล่าวให้แก่เด็กและเยาวชนได้แล้ว ก็จะทำให้เด็กและเยาวชนเกิดความเข้าใจและเกิดการสืบทอดการปฏิบัติต่อไป
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ร่วมกบคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง จึงได้พิจารณาจัดโครงการ งานเทศกาลวันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ 2552 ขึ้นเพื่อมุ่งสอดแทรกความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องลงไปในกิจกรรมการเฉลิมฉลอง การเลี้ยงสังสรรค์ และกิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้มีขึ้นในโครงการ

วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรม ในวันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่
2.เพื่อส่งเสริมให้เกิดค่านิยมที่ดีงาม
3.เพื่อเป็นการสืบสาน สร้างสรรค์ วัฒนธรรม ประเพณี ทั้งของไทยและสากล
4.เพื่อให้นักเรียนมีสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยด้านนันทนาการ
5.เพื่อให้นักเรียนสนใจแสวงหาความรู้จากการจัดกิจกรรมภายในโครงการ
6.เพื่อให้นักเรียนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมในกิจกรรมต่างๆ
7.เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชน ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน
8.เพื่อจัดหาเงินเข้ากองทุนเพื่อการศึกษาของโรงเรียน

ความสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา
มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย
1.เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ (มาตรฐานที่ 3 ข้อ 3.3)
2.มีความมั่นใจและกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม (มาตรฐานที่ 7 ข้อ 7.4)
3.มีความสนใจและร่วมกิจกรรมด้านดนตรี (มาตรฐานที่ 8 ข้อ 8.2)
4.มีความสนใจและร่วมกิจกรรมการเคลื่อนไหว (มาตรฐานที่ 8 ข้อ 8.3)
5.มีการจัดกิจกรรม กระตุ้นพัฒนาการทางสมอง ตอบสนองความสนใจ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.2)
6.มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมที่ดีงาม (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.3)
7.มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.4)
8.มีการจัดกิจกรรมสืบสานและสร้างสรรค์ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทย (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.5)
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
1.มีทักษะในการจัดการและทำงานให้สำเร็จ (มาตรฐานที่ 3 ข้อ 3.1)
2.ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ (มาตรฐานที่ 3 ข้อ 3.4)
3.มีความรู้สึกที่ดีต่ออาชีพสุจริตและหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพที่ตนสนใจ (มาตรฐานที่ 3 ข้อ 3.5)
4.มีความมั่นใจ กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม และให้เกียรติผู้อื่น (มาตรฐานที่ 7 ข้อ 7.4)
5.มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อน ครู และผู้อื่น (มาตรฐานที่ 7 ข้อ 7.5)
6.ชื่นชม ร่วมกิจกรรม และมีผลงานด้านดนตรี/นาฏศิลป์ (มาตรฐานที่ 8 ข้อ 8.2)
7.ชื่นชม ร่วมกิจกรรม และมีผลงานด้านกีฬา/นันทนาการ (มาตรฐานที่ 8 ข้อ 8.3)
8.มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมและตอบสนองความสามารถทางวิชาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.2)
9.มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมและตอบสนองความสามารถพิเศษ และความถนัดของผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.3)
10.มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมที่ดีงาม (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.4)
11.มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านศิลปะ ดนตรี/นาฏศิลป์ และกีฬา /นันทนาการ (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.5)
12.มีการจัดกิจกรรมสืบสานและสร้างสรรค์ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทย (มาตรฐานที่ 15 ข้อ 15.6)

เป้าหมาย/ตัวชี้วัดความสำเร็จ
เชิงปริมาณ
1.มีผู้ปกครอง เด็ก เยาวชน และประชาชนโดยทั่วไป เข้าร่วมงานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ.2552 ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
2.นักเรียนโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม และการแสดงบนเวทีต่างๆ ในงานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ.2552 ไม่ต่ำกว่า 500 คน

เชิงคุณภาพ
1.มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดชุดการแสดงบนเวทีกลาง ไม่ต่ำกว่า 20 ชุด
2.มีผู้ปกครองส่งนักเรียนเข้าร่วมประกวดหนูน้อยคริสต์มาสและปีใหม่ พ.ศ.2552 ทั้งประเภทชายและหญิง ไม่ต่ำกว่า 50 คน
3.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 จัดกิจกรรมออกร้านไม่ต่ำกว่า 7 ร้าน
4.บัตรกิจกรรมสอยดาวจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ใบ

สถานที่ดำเนินโครงการ
ภายในบริเวณโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ค่ายบุรฉัตร

ระยะเวลาดำเนินโครงการ
ระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม พ.ศ.2551 ระหว่างเวลา 15.00 น.-21.00 น.

กิจกรรมในโครงการ
1.กิจกรรมแสดงผลงานทางวิชาการของกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม
2.กิจกรรมการออกร้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 7 ร้าน (ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.2/1, ม.2/2, ม.3/1 และ ม.3/2) บริเวณหน้าอาคาร 1
3.กิจกรรมสอยดาว บริเวณหน้าอาคาร 1 โดยคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
4.กิจกรรมสวนสนุก บริเวณสนามฟุตบอล โดยคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
5.การออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคของโรงเรียน พ่อค้า แม่ค้าและบุคคลทั่วไป บริเวณหน้าอาคาร 2 โดยคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
6.การออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคของโรงเรียน โดยชุมนุมสหกรณ์
7.กิจกรรมสวนอาหาร บริเวณด้านข้างโรงพลศึกษา โดยคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
8.กิจกรรมเวทีกลาง (ในโรงพลศึกษา) ประกอบด้วย
8.1. วันที่ 24 ธ.ค.2551 การขับร้องเพลงของดนตรีวงบูรณ์แบน, การแสดงของนักเรียนชั้น อ.1/1 ,อ.1/2, อ.2/1, อ.2/2, อ.3/1, อ.3/2, อ.3/3, ป.1 และ ป.2
8.2. วันที่ 25 ธ.ค.2551 การขับร้องเพลงของดนตรีวงบูรณ์แบน, การประกวดหนูน้อยคริสต์มาสและปีใหม่ 2552 ประเภทชายและหญิง (ระดับชั้น อ.1-ป.2 ) และการแสดงของนักเรียนชั้น ป.3, ป.4, ป.5, ป.6, ม.1, ม.2 และ ม.3
9.กิจกรรมการประกวดร้องเพลงดนตรีไทยลูกทุ่ง (เวทีชั่วคราวหน้าโรงพลศึกษา) รุ่นอายุ 7-10 ปี และ 11-15 ปี
9.1.วันที่ 24 ธ.ค.2551 รอบคัดเลือก
9.2.วันที่ 25 ธ.ค.2551 รอบชิงชนะเลิศ

งบประมาณในการดำเนินโครงการ
1.รายได้จากการขายบัตรจัดกิจกรรมสอยดาว
2.รายได้จากการเก็บค่าบำรุง จากพ่อค้า แม่ค้าและบุคคลทั่วไป ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในโครงการ
3.ส่วนแบ่งรายได้จากสวนสนุก
4.รายได้จากเงินบริจาคจากผู้มีอุปการคุณ ผู้อุปถัมภ์ ผู้สนับสนุน และผู้บังคับหน่วยต่างๆ เป็นค่าถ้วยรางวัล สายสะพาย ของขวัญ ของรางวัลและเกียรติบัตร ให้แก่ นักเรียน เข้าร่วมประกวดหนูน้อยคริสต์มาสและปีใหม่ ชุดการแสดง และประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง

ทรัพยากรที่ใช้
1.เวทีขนาด 4X8 เมตร พร้อมเครื่องเสียงและเครื่องไฟของโรงเรียน
2.ไฟประดับตกแต่งสถานที่ (เช่า)
3.เต็นท์จำนวน 12 เต็นท์ (ขอรับการสนับสนุนจากหน่วยทหารต่างๆ ภายในค่ายบุรฉัตร)
4.กลุ่มงานกิจการนักเรียน
5.กลุ่มงานฝ่ายอาคารและสถานที่
6.กลุ่มฝ่ายโสตทัศนูปกรณ์ของโรงเรียน
7.กลุ่มงานประชาสัมพันธ์โรงเรียน
8.กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
9.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
10.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
11.กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
12.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
13.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
14.กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
15.กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
16.กลุ่มสาระการเรียนรู้ปฐมวัย
17.งานแนะแนว
18.งานดูแลช่วยเหลือนักเรียน
19.ชุมนุมดนตรีไทยลูกทุ่ง ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา
20.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ค่ายบุรฉัตร
21.คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียน
22.นักเรียนทั้งโรงเรียน
23.ความร่วมมือของพ่อแม่ และผู้ปกครองของนักเรียน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.เด็กและเยาวชน ร่วมทั้งผู้ที่มาร่วมงาน ได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรม ในวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ ที่ถูกต้องเกิดค่านิยมที่ดีงาม
2.นักเรียนมีสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยด้านนันทนาการ และมีความมั่นใจ กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม
3.เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชน ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน
4.เผยแพร่ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของโรงเรียนต่อสาธารณชน
5.ได้เงินเข้าสมทบกองทุนเพื่อการศึกษาของโรงเรียน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาต่อไป


ลงชื่อ พ.อ.สุชาต จันทรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
ผู้เสนอโครงการ 12 ธ.ค.2551
ลงชื่อ จ.ส.อ.หิรัญ ผลมาตย์ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
ผู้เสนอโครงการ 12 ธ.ค.2551
ลงชื่อ พล.ต.นิพนธ์ ปานมงคล ผู้จัดการโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา
ผู้อนุมัติโครงการ 17 ธ.ค.2551

กำหนดการเวทีกลางงานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2552 วันที่ 25 ธ.ค.2551

กำหนดการเวทีกลาง
งานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2552
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2551
18.00 น.
-การแสดงของวงบูรณแบนด์ (30 นาที) (ให้เอานักร้องที่ประกวดชนะเลิศมาร้องในช่วงนี้ด้วย 2 คน)
18.30 น.
-พิธีเปิดงานการประกวดหนูน้อยคริสต์มาส (15 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ป.3 “สายฝน” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)
-แนะนำคณะกรรมการตัดสินหนูน้อยคริสต์มาสและปีใหม่ และคณะกรรมการตัดสินขวัญใจสื่อมวลชน (5 นาที)
-การประกวดหนูน้อยคริสต์มาสรอบโชว์ตัว (เดินหมดทั้งหญิงและชาย) จบด้วยการเชียร์ดอกไม้ของผู้ปกครอง (30 นาที)
19.30 น.
-การแสดงของนักเรียนชั้น ป.4 “ลูกสะใภ้นายก” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)
-การประกวดหนูน้อยคริสต์มาส(หญิง) รอบแนะนำตัว (เดินทั้งหมด) แนะนำตัว (ชื่อจริง ชื่อเล่น ชั้น) จบด้วยการเชียร์ดอกไม้ของผู้ปกครอง (20 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ป.5 “สามโห่สามช่า” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)
-การประกวดหนูน้อยคริสต์มาส (ชาย) รอบแนะนำตัว (เดินทั้งหมด) แนะนำตัว (ชื่อจริง ชื่อเล่น ชั้น) จบด้วยการเชียร์ดอกไม้ของผู้ปกครอง (10 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ป.6 ชุด “ระบำดอกบัว” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)
20.20 น.
-การประกวดหนูน้อยคริสต์มาส(หญิง) รอบสุดท้าย (เดินทั้งหมด) จบด้วยการเชียร์ดอกไม้ของผู้ปกครองและมอบของที่ระลึก (20 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ม.1 ชุด ”Chirstmas Dance” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)
-การประกวดหนูน้อยคริสต์มาส (ชาย) รอบสุดท้าย (เดินทั้งหมด) จบด้วยการเชียร์ดอกไม้ของผู้ปกครองและมอบของที่ระลึก (10 นาที)
21.00 น.
-การแสดงของนักเรียนชั้น ม.2 ชุด “Sha la la” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ม.3 ชุด “จิ๋กโก๋นำเข้า” มอบของที่ระลึกผู้แสดง (5 นาที)

-การประกาศรายชื่อหนูน้อยคริสต์มาส ขวัญใจผู้ปกครอง และขวัญใจสื่อมวลชน ที่ได้รับรางวัล ขึ้นบนเวที (ยังไม่ประกาศตำแหน่ง) (10 นาที)
-ชาย ผู้ได้ตำแหน่ง 3 คน ขวัญใจผู้ปกครอง 1 ขวัญใจสื่อมวลชน 1 รวม 5 คน
-หญิง ผู้ได้ตำแหน่ง 3 คน ขวัญใจผู้ปกครอง 1 ขวัญใจสื่อมวลชน 1 รวม 5 คน
(หมายเหตุ ในกรณี ขวัญใจผู้ปกครอง และขวัญใจสื่อมวลชน เป็นคนเดียวกันให้ลดลงตามสัดส่วน เพราะบางคนอาจได้สองตำแหน่ง)
-การเชิญผู้มอบและประกาศรางวัลตามลำดับ (30 นาที)
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล ขวัญใจผู้ปกครอง (ชาย)
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล ขวัญใจผู้ปกครอง (หญิง)
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล ขวัญใจสื่อมวลชน (ชาย)
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล ขวัญใจสื่อมวลชน (หญิง)
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล หนูน้อยคริสต์มาส (ชาย) รองชนะเลิศอันดับ 2
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล หนูน้อยคริสต์มาส (ชาย) ชนะเลิศ
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล หนูน้อยคริสต์มาส (ชาย) รองชนะเลิศอันดับ 1 (ที่เหลือ)
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล หนูน้อยคริสต์มาส (หญิง) รองชนะเลิศอันดับ 2
-เชิญผู้มอบรางวัล ประกาศรางวัล หนูน้อยคริสต์มาส (หญิง) ชนะเลิศ
-เชิญผู้มอบ ประกาศรางวัล หนูน้อยคริสต์มาส (หญิง) รองชนะเลิศอันดับ 1 (ที่เหลือ)
22.00 น.
-เลิกงาน (โดยประมาณ)

กำหนดการเวทีกลางงานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2552 วันที่ 24 ธ.ค.2551

กำหนดการเวทีกลาง
งานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2552
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2551

18.00 น.
-การแสดงของวงบูรณแบนด์ (30 นาที)
18.30 น.
-พิธีเปิดงานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2552 (15 นาที)
18.45 น.
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.1/1 “ฉันคือเมฆ” (4 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.1/2 “คนที่ใช่” (3 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.2/1 “พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง” (3 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.2/2 “หนูอยากโดนอุ้ม” (4 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.3/1 ”ไผ่ว่าน้องเจ้าชู้” (4 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.3/2 “ข้าวแกง ข.ไข่” (3 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น อ.3/3 “สาวกันตรึม” (4 นาที)
19.30 น.
-การแสดงของวงบูรณแบนด์ (10 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ป.1 “คนบ้านเดียวกัน” (6 นาที)
-การแสดงของนักเรียนชั้น ป.2 “Jingle bell” (5 นาที)
-การแสดงของวงบูรณแบนด์ (30 นาที)
20.30 น.
-เลิกงาน (โดยประมาณ)

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คำบรรยาย วันพ่อแห่งชาติของ พ.อ.สุชาต จันทรวงศ์ ผอ.รร.ทบอ.บูรณวิทยา

คำบรรยาย วันพ่อแห่งชาติของ พ.อ.สุชาต จันทรวงศ์ ผอ.รร.ทบอ.บูรณวิทยา
4 ธ.ค.2551 ณ โรงพลศึกษา รร.ทบอ.บูรณวิทยา

เรียน ท่านผู้ปกครอง คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ประธานชุมชนภายในค่ายบุรฉัตร คุณครู ทุกท่าน และลูกๆ นักเรียนโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ทุกคน
วันนี้ ผอ. รู้สึกดีใจที่เห็นผู้ปกครองทุกท่าน รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ ได้เสียสละเวลามาร่วมงานถวายสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นล้นเกล้าเหนือหัวของพสกนิกรชาวไทยทุกคน และยังได้ร่วมกิจกรรมวันพ่อของโรงเรียนในวันนี้
ในวันพ่อทุกปี ผอ.รู้สึกคิดถึงสิ่งที่ดีๆ ของพ่อเสมอ อยากจะเข้าไปกอดเข้าไปกราบไหว้ด้วยดอกพุทธรักษาซึ่งเป็นตัวแทนในความรักที่มีต่อพ่อ แต่ ผอ.ไม่มีโอกาส...และ ไม่มีโอกาสมากว่า 10 ปีแล้ว เพราะพ่อ ผอ. ท่านได้เสียชีวิตไปอย่างสงบ..เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ท่านทิ้งแม่ ทิ้ง ผอ. ทิ้งพวกเรา ให้ผจญอยู่ในสังคมอันสับสนในปัจจุบัน ท่านจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
และในวันนี้ เวลานี้ ผอ. กำลังจะเสียคุณแม่ของ ผอ. ไปอีก 1 คน เมื่อวานนี้ ในระหว่างที่พวกเรากำลังซ้อมพิธีวันพ่อกัน ก็มีโทรศัพท์แจ้งมาจากโรงพยาบาลราชบุรีว่า คุณแม่ต้องส่งเข้ารักษาตัวในห้อง ICU โดยด่วน แต่ ผอ.ก็ไม่สามารถเดินทางไปได้ในขณะนั้น เพราะต้องทำหน้าที่การซ้อมให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
วันนี้ หลายคนอาจจะไม่มีพ่อ หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นหน้าพ่อ หรือลืมไปแล้วว่ามีพ่อ และหลายคนก็กำลังโกรธพ่อ ที่ทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับแม่ และหลายคนก็อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ มีพ่อที่ดี มีแม่ที่ประเสริฐ
ไม่ว่าครอบครัวใครจะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลูกคนไหน จะคิดอย่างไรกับพ่อ ขออย่าได้โกรธได้เกลียดท่าน เพราะถ้าไม่มีความรักระหว่างพ่อและแม่ ก็คงไม่มีตัวเรามาจนทุกวันนี้ พ่อสร้างเราด้วยความรัก พ่อไม่ได้สร้างเราด้วยความเกลียด ดังนั้นไม่ว่าพ่อจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่มีสิทธิ์เกลียดพ่อ
เราควรที่หาวิธีการทดแทนบุญอันประเสริฐของพ่อมากกว่า ด้วยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้มีความรู้ เป็นคนดีของสังคม อย่าให้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อแม่อุตส่าห์หามาด้วยความยากลำบาก จากเม็ดเหงื่อทุกเม็ด จากความทรมานและลำบากตรากตรำ สูญเปล่าโดยไร้ค่า......
พ่อแม่ของเราก็นับวันจะยิ่งแก่ชราลง ในขณะเดียวกัน พวกเราก็กำลังจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในสังคม วันหนึ่งพ่อแม่..ก็จะจากพวกเราไป ไม่มีใครชีวิต มีชีวิตเป็นนิรันดร์ ดูตัวอย่าง ในวันนี้ ขณะนี้ ลมหายใจแม่ ของ ผอ. ก็กำลังอ่อนล้าและแผ่วเบาลง.. แม่จะจาก ผอ.ไปตอนไหน เวลาไหนก็ไม่รู้ พ่อแม่ทุกคนไม่อยากจากเจ้าไปที่ใดหรอก แต่มันเป็นกฎเกณฑ์ของมนุษย์ มีเกิดก็มีดับ มีพระอาทิตย์ขึ้นก็มีพระอาทิตย์ตก แต่ก่อนที่พ่อแม่จะจากไปก็เพียงหวังที่จะเห็นลูกของตัวเองได้ดี มีงานทำที่มั่นคง และเป็นคนดีของสังคม แล้วพ่อแม่ก็คงจะจากไป ตายโดยตาหลับ ดังคำกล่าวที่ว่า
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าอยู่ไม่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพียงยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนนาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ลูกบูรณวิทยา รู้ไหม มีชีวิตหลายชีวิตที่ไม่เคยสัมผัสไออุ่นจากพ่อของตัวเองเลย เห็นหน้าพ่อแต่ในรูป ไม่เคยได้พูดคุย หยอกล้อ เล่นหัว หรือได้รับการโอบกอดที่อบอุ่นจากพ่อเลย มีสามีภรรยา อยู่คู่หนึ่ง รักกันและแต่งงานกัน หวังจะมีลูกได้ชื่นชมเป็นสักขีพยานแห่งรัก หลังจากแต่งงานได้ไม่นาน ก็เกิดตั้งครรภ์ สามีดีใจมากที่จะได้มีลูก แต่อนิจจา ข่าวดีมักจะมากับข่าวร้ายเสมอ ไม่กี่วันต่อมา แพทย์ได้ตรวจพบเนื้องอกในสมองของสามีที่กำลังจะเป็นพ่อของลูก แต่เขาก็ไม่ได้เห็นหน้าลูก เพราะยมบาลมาพรากเขาไปเสียก่อน นี่คือเรื่องจริงเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคม....
ในที่สุด ข่าวร้ายก็มาก่อน.. แต่ด้วยความรักที่พ่ออยากเห็นหรืออยากได้สัมผัสลูก จึงเกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมา ในเรื่องราวที่ชื่อว่า ”คลอดก่อนกำหนด”
เปิด VTR ”คลอดก่อนกำหนด”
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
มีครอบครัวหนึ่งแสนอบอุ่น มีลูกสาวคนเดียว พอดีใจเฝ้าทะนุถนอมอุ้มชูมาตั้งแต่เล็ก ส่งเรียนตั้งแต่อนุบาล ประถม มีกิจกรรมการแสดงในโรงเรียนก็ส่งเข้าแสดงทุกครั้ง เฝ้ารับ-ส่ง ทุกเช้าเย็น ยังไม่ทันจะเรียนจบ ลูกกลับทำลายจิตใจพ่ออย่างใหญ่หลวง แต่อย่างไร พ่อก็ยังเป็นพ่อ ไม่ว่าลูกจะเลวอย่างไร พ่อยอมรับได้เสมอ ดังในเรื่องราวของ “ปุยฝ้าย”
เปิด VTR ”ปุยฝ้าย”
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจพ่อมีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
ขอฝากท่านผู้ปกครองทุกท่านว่า ชีวิตในสมัยนี้ เป็นโลกในยุคข้อมูลข่าสารและความรวดเร็วแบบเวลาจริง สังคมจึงเปลี่ยนไป แตกต่างจากชีวิตในอดีตที่เราเคยเป็นเด็ก สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความนึกคิด ความฝัน ของเด็กๆ จึงต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน ในบางครั้ง พ่อแม่อาจจะต้องพยายามเข้าใจลูกบ้าง เข้าใจความรู้สึก เข้าใจความฝันของเขา หากพ่อแม่ไม่เข้าใจ วันหนึ่งมันอาจจะสายเกินไป.... ดังเช่น เด็กคนหนึ่งกำพร้าแม่มาตั้งแต่เล็ก เหลือเพียงพ่อคนเดียวที่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ แต่บางอย่างมันขาดหายไป...จนกระทั่ง...ทุกอย่างก็สายเกินไป ...หากทุกคนที่เป็นทั้งพ่อและแม่ คิดได้ตั้งแต่บัดนี้...เหตุการณ์เหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น....ไม่สายเกินไปที่จะกล่าวคำว่า....ขอโทษ
เปิด VTR ”อยากขอโทษ”
ลูกๆ บูรณวิทยา ทุกคน พวกเธอจงดีใจและภูมิใจในตัวพ่อของเธอ ไม่ว่าพ่อเธอจะยากดี มีจนอย่างไร พ่อของทุกๆ คนก็เฝ้ารักทะนุถนอมพวกเธอ เก็บหอบรอบริบ มีเงินบ้างไม่มีเงินบ้าง ก็ต้องเจียดเงินไว้ส่งพวกเธอได้เรียนสูงๆ ให้พวกเธอมีชีวิตที่ดีกว่าพ่อแม่ แม้บางครั้งก็ต้องอดมื้อกินมื้อบ้าง เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าขนม ค่าเล่าเรียน ให้พวกเธอมาโรงเรียน ไม่ว่าลูกๆ จะต้องการสิ่งใด พ่อจะพยายามหาให้ แต่ลูกก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อมีเงินหรือไม่ แต่พ่อก็หาหามาให้พวกเธอจนได้ตามปัญญาที่พ่อมี แม้จะไม่สวยไม่ดี ไม่เลิศเลอ แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีสุดเท่าที่พ่อจะทำได้ พ่อเพียงหวังให้พวกเธอทุกคนมีความสุข มีอนาคตที่ดี และเป็นคนดีของสังคม
ด้วยเหตุนี้ ลูกๆ ทุกคน ต้องตั้งใจเรียน เพื่อความหวังของพ่อ และไม่ต้องอาย อย่าอาย ที่จะตอบทุกคนว่า พ่อของเธอคือใคร เธอต้องภูมิใจในพ่อของเธอเอง... นี่คือ ความรักแท้ที่พ่อมีต่อลูก
และในโอกาสต่อไป ผอ.อยากให้ลูกๆ ทุกคนได้ร้องเพลงเพลงหนึ่ง ให้พ่อของเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ และพ่อของลูกๆ อีกหลายคนที่ไม่ได้มาในงานวันนี้........พวกเราจะร่วมร้องเพลงนี้ได้ดังกึกก้องทั้งโรงยิมฯ และดังไปถึงพ่อของบางคนที่ไม่รู้ว่า ขณะนี้พ่ออยู่ที่ไหน ขอให้สายลมช่วยพาเสียงเพลงนี้ของพวกเราไปถึง พ่อของเราด้วย...
เปิด MV ”ลูกสาวของพ่อ”
ในลำดับต่อไป อยากให้ลูกๆ ทุกคนได้มอบดอกพุทธรักษา ให้พ่อของตัวเอง เดินไปตรงหน้าพ่อ กราบ และกอด ติดดอกพุทธรักษาที่หน้าอกของพ่อแทนความรักที่เรามี...หลายคนที่พ่อไม่ได้มา...เอากลับไปบ้าน..หาพ่อให้เจอ...หรือจากจะสมมติว่า ผอ.เป็นพ่อ ก็มาติดให้ ผอ.ก็ได้

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

กิจกรรมพิธีดับไฟในกระถางคบเพลิง กีฬานักเรียน ปี 2551

กิจกรรมพิธีดับไฟในกระถางคบเพลิง
การแข่งขันกีฬาสี ประจำปีการศึกษา 2551

(เพลงประกอบ Auld Lang syne (ทำนอง))
ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันกีฬา “บูรณเกมส์” ....พวกเราทั้งหมดกว่า 800 ชีวิต...มีทั้งความสนุกสนาน...ตื่นเต้น...บ้างก็สำเร็จ สมหวัง...และบ้างก็ผิดหวัง...เสียใจ.. ผสมผสาน...คละเคล้ากันไป....
แต่ไม่ว่าใครจะเป็นอย่างไร.. นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของการแข่งขันกีฬา.....การแข่งขันกีฬา... คือ การสอนให้พวกเรา...ได้รู้จักหมั่นฝึกฝน..ตนเองอยู่เสมอ.....ผู้ชนะ ก็ใช่ว่า...จะชนะตลอดไป..หากขาดการฝึกซ้อมที่ดี ....ส่วนผู้แพ้...ก็อาจเป็นผู้ชนะได้....ถ้าหมั่นฝึกฝนให้มากยิ่งขึ้น.....แต่สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใด คือ....พวกเราทุกคน...ต้องชนะใจตนเอง...ชนะใจคู่แข่งขัน....และชนะใจคนดู....มีน้ำใจเป็นนักกีฬา...สมกับคำที่ว่า “รู้แพ้... รู้ชนะ....รู้อภัย”
นับจากนี้ไป เสียงกลอง เสียงเชียร์ เสียงแห่งชัยชนะ และน้ำตาของผู้แพ้ คงไม่มีอีกแล้ว.....จนกว่าจะถึงปีหน้า ผู้อำนวยการ ขอขอบใจสภานักเรียน และคณะกรรมการจัดการแข่งขันทุกคน ...ขอขอบคุณคุณครู...และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน.. ที่ช่วยกันจัด..การแข่งขันกีฬาในครั้งนี้...อย่างเสร็จสมบูรณ์....และเพื่อเป็นการตอบแทนต่อความเหน็ดเหนื่อยของทุกๆ คน ...ผู้อำนวยการ อยากให้ลูกๆ บูรณวิทยาทุกคน ให้คำมั่นสัญญาว่า...จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน...ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ....เพื่อจะได้เป็นคนดีของแผ่นดินสืบไป...
แม้ว่าวันเวลาของบูรณเกมส์ ใกล้จะจบลง ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว แต่หัวใจของพวกเราชาวบูรณะวิทยาทุกคน จะยังคงผูกพัน กันไว้เสมอ ด้วยรัก ด้วยสามัคคี และด้วยความคิดถึง ไม่มีวันเสื่อมคลาย....
(...เพลงหัวใจผูกกัน... )
กิจกรรม : แสดงความยินดี ถ่ายรูปร่วมกันในสนาม ค่อยๆ จับมือกันเป็นวงกลมให้เต็มสนาม และจับมือกันเสร็จเมื่อเพลงจบ ขอให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ ให้คุณครูทุกคนช่วยกันเป็นแกนนำ)
(เพลงประกอบ My heart will go on.)
ขณะนี้ เปลวไฟในกระถางคบเพลิงค่อยๆ ดับลงแล้ว แต่พลังแห่งเปลวไฟ ไม่ได้เลือนหายไปไหน ...แต่กลับเลื่อนไหล...มาอยู่ในตัวของพวกเราทุกคน...แหละพวกเรา จะขอส่งพลังแห่งไฟนี้ ไปยังมวลมนุษยชาติทุกคน ...ให้ได้รับรู้ว่า......นี่คือ พลังของพวกเรา.... พลังแห่งการเรียนรู้ของเด็กคนหนึ่ง พลังของคนไทยคนหนึ่ง....ที่มุ่งมั่นและตั้งใจ...จะเป็นคนดีของแผ่นดินสืบไป....
กิจกรรม : ร่วมขับร้องเพลง Auld Lang syne (เริ่มตัดเชือกลูกโป่งทีละใบเมื่อเพลงขึ้น มี 100 ใบแต่ละใบตัดเชือกให้ลอยห่างกัน 1.5 วินาที (ครูเจตนาคุมลูกโป่ง ตำแหน่งลูกโป่งอยู่ในวงกลมกลางสนาม))

คำกล่าวประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน ปี 2551

คำกล่าวในพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา “บูรณเกมส์”
ประจำปีการศึกษา 2551
วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2551
ณ สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร
เรียน ท่านอดีตครูใหญ่ ท่านพ่อแม่ผู้ปกครอง ท่านคณะกรรมการเครือข่าย ท่านประธานชุมชน ท่านประธานสโมสรนายทหารชั้นประทวน คณะครู และนักเรียนบูรณวิทยาทุกคน

กระผมรู้สึกดีใจที่เห็นนักเรียนของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยาทุกคน มีความสนุกสนาน ในการแข่งขันกีฬานักเรียนในปีนี้ บ้าง ก็ได้เหรียญกันหลายเหรียญ บางคนที่ไม่ได้เหรียญ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เก่ง แต่อาจจะเป็นกองเชียร์ และเป็นกองสนับสนุนที่ดี และขอชื่นชม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ช่วยจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆ จนสำเร็จเรียบร้อยไปด้วยดี
และที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษ คือ คณะกรรมการสภานักเรียน ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์
ขอขอบคุณคุณครูทุกคนที่ช่วยกัน
ขอขอบคุณท่านพ่อแม่ผู้ปกครอง ท่านผู้บังคับหน่วยต่างๆ ท่านประธานชุมชนในค่ายบุรฉัตร ท่านประธานสโมสรนายทหารชั้นประทวน ท่านคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ที่ช่วยเหลือสนับสนุนเกือบทุกอย่าง ทำให้การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์
กระผมในฐานะผู้อำนวยการ พร้อมด้วยคณะครู คณะกรรมการนักเรียน จึงขอแสดงความขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย และพวกเราขอปวารณาตัวว่าจะพยายามสร้างโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ให้เจริญก้าวหน้าจนเต็มความสามารถของพวกเราที่มีอยู่ ให้สมกับคำขวัญของโรงเรียนที่ว่า “อบอุ่น ปลอดภัย ในค่ายบุรฉัตร”
บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว กระผมขอปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา “บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2551 ณ บัดนี้

คำกล่าวรายการในพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน ปี 2551

คำกล่าวรายการในพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา “บูรณวิทยา”
ประจำปีการศึกษา 2551
วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2551 ณ สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร

เรียน / ท่านประธานในพิธี /และแขกผู้มีเกียรติ /ทุกท่าน

ดิฉัน /เด็กหญิงจินดาพร แซ่ด่าน / นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 1 /ในนามของคณะกรรมการสภานักเรียน/ และนักเรียนทุกคน/ ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ /บูรณวิทยา /ขอขอบพระคุณ /ท่านประธานในพิธี / ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธาน/ ในพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน /ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา/ “บูรณเกมส์” /ประจำปีการศึกษา 2551/ ในวันนี้ /ดิฉัน ใคร่ขอสรุปผลการจัดการแข่งขัน / เพื่อกรุณาทราบ ดังนี้
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา / ได้จัดการแข่งขันกีฬานักเรียน/ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา/ “บูรณเกมส์” /ประจำปีการศึกษา 2551/ มาตั้งแต่วันที่ 16 /ธันวาคม /พุทธศักราช 2551 / จนกระทั่งถึงวันนี้ /รวมทั้งสิ้น 4 วัน/ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ/เสริมสร้างความสามารถด้านทักษะการแข่งขันกีฬา / ด้านการจัดการแข่งขัน /และมารยาทในการชมกีฬา/ ให้แก่นักเรียน / รวมทั้งในด้านความมีคุณธรรม /จริยธรรม / รู้จักแพ้ / รู้จักชนะ/ และ/ รู้จักการให้อภัย
การจัดการแข่งขันครั้งนี้ / ได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่มสี / คือ สีแดง / สีชมพู/ สีเหลือง /และ สีม่วง / มีประเภทกีฬาที่ทำการแข่งขันรวม 17 ชนิด/ แบ่งเป็นกีฬาชนิดต่างๆ ดังนี้
กีฬามาตรฐาน /จำนวน 7 ชนิด /ได้แก่ /ฟุตบอล /ฟุตซอลท์ /เซปักตะกร้อ /เปตอง/ ปิงปอง/ บาสเก็ตบอล /และกรีฑา
กีฬาภูมิปัญญาไทย /จำนวน 9 ชนิด /ได้แก่ /มวยกระดิ่ง/ วิ่งวิบาก/ ตีไก่ /วิ่งเก็บของ /วิ่ง 3 ขา / กระโดดไกล/ ชักกระเย่อ /ขว้างไกล / และวิ่งกระสอบ
การจัดแข่งขันครั้งนี้ /เป็นไปด้วยความเรียบร้อย /บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้/ ทุกประการ / ดิฉัน/ ในนามของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน /ขอขอบคุณ /ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง /กองพันทหารช่างที่ 602 / กองพันทหารช่างที่ 52 / กองพันทหารช่างที่ 51 /คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง / ผู้บังคับหน่วย /ประธานชุมชนในค่ายบุรฉัตร /ประธานสโมสรนายทหารชั้นประทวน ค่ายบุรฉัตร/ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ / ท่านผู้อำนวยการ / และคุณครูทุกท่าน /โดยเฉพาะอย่างยิ่ง /พ่อแม่ผู้ปกครอง/ ของพวกเราทุกคน
บัดนี้ / ได้เวลาสมควรแล้ว /ดิฉันใคร่ขอเรียนเชิญท่านแขกผู้มีเกียรติ และท่านประธานในพิธี/ได้กรุณามอบถ้วยรางวัลต่างๆ/ ให้แก่กลุ่มสี / และหลังจากนั้น /ขอเรียนเชิญ /ท่านประธานในพิธี /ได้กรุณากล่าวให้โอวาท/ และกล่าวปิด/ การแข่งขันกีฬานักเรียน/ ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ /บูรณวิทยา /“บูรณเกมส์” /ประจำปีการศึกษา 2551/ ต่อไป /ขอเรียนเชิญค่ะ

กำหนดการพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน(บูรณะเกมส์) ประจำปี 2551

กำหนดพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา “บูรณเกมส์”
ประจำปีการศึกษา 2551
วันศุกร์ที่ 19 ธันวามคม 2551
ณ สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร

**************************

13.30 น.
-ครูและนักเรียนทุกคนพร้อมที่บริเวณอัฒจันทร์ สนามกีฬากลาง ค่ายบุรฉัตร (นั่งแบ่งตามสี อัฒจันทร์สองข้างประธาน ไว้ให้แขกรับเชิญ)
-ประธานเดินทางมาถึงบริเวณพิธี (ไม่ได้กำหนดเวลา มาเมื่อใดก็ปฏิบัติได้เลย) ดนตรีบรรเลงมหาฤกษ์ พิธีกรเชิญประธานชมการแข่งขัน
การแข่งขัน
-การแข่งขันกรีฑารอบชิงชนะเลิศ
-การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน
-เมื่อจบการแข่งขัน พิธีกรเชิญนักเรียนทุกสีเข้าประจำที่ในสนาม (เว้นอนุบาล)

-(sound) พิธีกรประกาศต่อไปเป็นการเชิญหมู่เชิญธงเข้าประจำที่
-วงดุริยางค์โรงเรียนนำหมู่เชิญธงเข้าประจำที่หน้าเสาธง
- (sound) พิธีกรประกาศเชิญคณะกรรมการจัดการแข่งขัน
- ประธานจัดการแข่งขันกล่าวรายงานผลการแข่งขัน เชิญประธานมอบถ้วยรางวัล และกล่าวปิดการแข่งขัน
-พิธีกรเชิญแขกผู้มีเกียรติมอบถ้วยชนิดกีฬาต่างๆ
-ประธานในพิธีมอบถ้วยรางวัล (เป็นคนสุดท้าย) และกล่าวให้โอวาทพร้อมปิดการแข่งขัน
-ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์
-(sound) พิธีกรประกาศ “ต่อไปจะเป็นพิธีเชิญธงชาติและธงกีฬาลงจากยอดเสา” และสั่งนักกีฬาซ้ายหัน
- ดนตรีบรรเลงเพลงชาติ ต่อด้วยเพลงกราวกีฬา
- พิธีกรสั่งนักกีฬา ขวาหัน
- วงดุริยางค์โรงเรียนเดินนำหมู่ธงหยุดบริเวณหน้าประธาน แล้วนำธงโรงเรียนมามอบให้ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน
-ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันรับมอบธงโรงเรียนและเดินขึ้นมามอบให้ประธานในพิธี
-ประธานรับมอบธงโรงเรียน และมอบต่อให้ผู้แทนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นผู้รับมอบ
-เสร็จแล้วกลับเข้าประจำที่ในสนามตามเดิม
-(sound) ต่อไปจะเป็นพิธีดับไฟในกระถางคบเพลิง
-(sound พิธีดับไฟในกระถางคบเพลิงยาวตลอด) (กิจกรรมประกอบตามใบแนบ)
15.30 น. -เสร็จพิธี

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

กำหนดการพิธีเปิดกีฬานักเรียน (บูรณะเกมส์) ประจำปีการศึกษา 2551

กำหนดการพิธีเปิดกีฬานักเรียน (บูรณะเกมส์) ประจำปีการศึกษา 2551
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
วันพุธที่ 17 ธันวาคม 2551
ณ สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร

14.00 น.
-ผู้ปกครอง แขกผู้มีเกียรติและแขกรับเชิญทยอยเดินทางถึงบริเวณพิธี (การแสดงดนตรีของวงบูรณะแบนด์/พิธีกรกล่าวต้อนรับและกล่าวนำการแสดงของวงบูรณแบนด์/ครูกมล และครูชมพูนุชควบคุมการแสดง/คณะผู้บริหารรับรองแขก/ครูกมล ครูสมใจ ครูสุธน กำกับเครื่องเสียง )

14.20 น.
-วงดุริยางค์โรงเรียน , วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. ,ขบวนพาเหรดสี ทั้งระดับอนุบาล ประถมและมัธยม พร้อมกันบริเวณประตูด้านทิศเหนือของสนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร (ฝั่งนาฬิกา) (ครูวิชัย ครูบุญสม ครูเจตนา ครูธนกร และครูธันวา กำกับดูแลรูปขบวน/ครูรุ่งชัย กำกับวงดุริยางค์โรงเรียนฯ/คณะผู้บริหารรับรองแขก)

14.30 น.
-Sound1
(ครูสุธน)
-พิธีกรนำเข้าสู่การรับชมขบวนพาเหรดของสีต่างๆ (สองภาษา)
-วงดุริยางค์โรงเรียน นำขบวนพาเหรดสีระดับอนุบาล เข้าสู่สนาม ตามด้วยวงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. นำขบวน พาเหรดสีระดับประถม – มัธยม เข้าประจำที่ในสนาม (พิธีกรประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องราวของโรงเรียน (ภาษาไทย)) /ครูวิชัย ครูบุญสม ครูเจตนา ครูธนกร และครูธันวา กำกับดูแลรูปขบวน/ครูรุ่งชัย กำกับวงดุริยางค์โรงเรียนฯ (เมื่อวงดุริยางค์ จทบ.รบ. เริ่มเป่า ให้วงดุริยางค์โรงเรียนฯ หยุดเป่า))

14.50 น.
-ผู้ปกครอง แขกผู้มีเกียรติและแขกรับเชิญพร้อมต้อนรับประธานในพิธี
(ครูรุ่งชัยฯ แยกวงดุริยางค์ของโรงเรียนไปเตรียมนำขบวนธงชาติและธงสี)
15.00 น.
-ประธานในพิธีเดินทางถึงบริเวณพิธี
- พิธีกรบอกแสดงความเคารพประธานในพิธี (ภาษาไทย)
- วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. บรรเลงเพลงมหาฤกษ์
(ครูเจตนา คอยให้สัญญาณ วงดุริยางค์ จทบ.รบ.)
-Sound2 (ครูสุธน)
-พิธีกรนำเข้าสู่พิธีเชิญธงชาติและธงกีฬา(สองภาษา)
-วงดุริยางค์โรงเรียน นำขบวนธงชาติ ธงกีฬาและธงประจำสี เข้าสู่สนามประจำที่บริเวณเสาธง (พิธีกรบรรยายเกี่ยวกับ วงดุริยางค์ และนักเรียนที่เชิญธง (ภาษาไทย)/ครูวิชัย ครูบุญสม ครูธนกร และครูเจตนากำกับดูแลรูปขบวน/ครูธันวา กำกับดูแลการชักธงขึ้นสู่ยอดเสา)
-พิธีกรสั่งนักกีฬา “ซ้ายหัน” (ภาษาไทย)
-พิธีกรเชิญทุกคนร่วมเคารพธงชาติ (สองภาษา)
-เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา (วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. บรรเลงชาติ)
-พิธีกรกล่าวนำเข้าสู่การเชิญธงโรงเรียนและธงกีฬาขึ้นสู่ยอดเสา (สองภาษา)
(วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. บรรเพลงกราวกีฬา)
-พิธีกรสั่งนักกีฬา “ขวาหัน” (ภาษาไทย)
(ครูเจตนา คอยให้สัญญาณ วงดุริยางค์ จทบ.รบ.)

-sound 3
(ครูสุธน)
-พิธีกรเชิญคณะกรรมการจัดการแข่งขันกล่าวรายงาน (สองภาษา)
-ประธานนักเรียนพร้อมด้วยคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานการจัดการแข่งขัน และเรียนเชิญประธานในพิธีกล่าวให้โอวาทและกระทำพิธีเปิดการแข่งขัน
(ครูเจตนา กำกับดูแลคณะกรรมการนักเรียน)
-ประธานในพิธีกล่าวให้โอวาทและกล่าวเปิดการแข่งขัน
-วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ เมื่อประธานกล่าวจบ (ครูเจตนา คอยให้สัญญาณ วงดุริยางค์ จทบ.รบ.)

-Sound 2
(ครูสุธน)
-พิธีกรนำเข้าสู่พิธีจุดไฟในกระถางครบเพลิง (สองภาษา)
-นักกีฬาวิ่งคบเพลิงเข้าสู่สนาม (เปิด sound 5 คลอเบาๆ(ครูสุธน))
-พิธีกรกล่าวประวัตินักกีฬาที่วิ่งคบเพลิง (ภาษาไทย) (ครูบุญสมกำกับดูแลไฟในคบเพลิงที่นักกีฬาถือ)
-เมื่อนักกีฬาที่วิ่งคบเพลิงผ่านบริเวณเสาธง -พิธีกรสั่งนักกีฬา “กลับหลังหัน” (ภาษาไทย)
-นักกีฬาวิ่งเข้าประจำที่หันหามาทางหน้าประธาน
-พิธีกรกล่าวนำเข้าสู่การจุดเพลิง (ข้อความที่กินใจ) (สองภาษา)
-นักกีฬาจุดคบเพลิง ( เมื่อเริ่มจุดคบเพลิงsound 2 ต่อด้วย sound 5(ครูสุธน))
-พิธีกรกล่าวเรื่องเกี่ยวกับไฟคือสัญลักษณ์การเปิดการแข่งขัน (ภาษาไทย)
(ครูธเนตร์ กำกับดูแลการจุดกระถางคบเพลิง)
-พิธีกรสั่งนักกีฬา “กลับหลังหัน” (ภาษาไทย)
-พิธีกรกล่าวนำเข้าสู่พิธีกล่าวคำปฏิญาณของนักกีฬาและเรียนเชิญนักกีฬาอาวุโส (สองภาษา)
-sound 4 คลอเบาๆ (ระหว่างที่นักกีฬาอาวุโสเดินออกมาจากใต้ทุนอัฒจันทร์) (ครูสุธน)
-การกล่าวคำปฏิญาณของนักกีฬา
-พิธีกรกล่าวประวัตินักกีฬาอาวุโส (ภาษาไทย)
(ช่วงนี้ให้ครูรุ่งชัย พาวงดุริยางค์ มาเข้าที่เตรียมนำพาเหรดอนุบาล)

-sound 1
-พิธีกรนำเข้าสู่การเดินพาเหรดขบวนนักกีฬา (สองภาษา)
-วงดุริยางค์โรงเรียน นำขบวนพาเหรดสีระดับอนุบาล เดินผ่านหน้าประธานในพิธีและออกประตูด้านทิศใต้
(พิธีกรอนุบาลประชาสัมพันธ์ การจัดรูปขบวนของแผนกอนุบาล(ภาษาไทย))
-วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ. นำขบวนพาเหรดสีระดับประถมและมัธยม เดินผ่านหน้าประธานในพิธีและออกประตูด้านทิศใต้
(พิธีกรแต่ละสี ประชาสัมพันธ์ การจัดรูปขบวนของสีตนเอง(ภาษาไทย))
(ครูวิชัย ครูบุญสม ครูเจตนา ครูธนกร และครูธันวา กำกับดูแลรูปขบวน/ครูบุญสมฯ สังเกตเมื่อขบวนสีสุดท้ายของอนุบาลผ่านประธานแล้ว ค่อยเริ่มให้วงดุริยางค์ จทบ.ร.บ.เริ่มบรรเพลง และปล่อยตัวนำขบวนพาเหรดระดับประถมและมัธยมเข้ามา)

-sound 3
(ครูสุธน)
-พิธีกรนำเข้าชมการแสดงของนักเรียน (สองภาษา)
-กล่าวนำการแสดง (ด.ญ.ปรานัดดา และด.ญ.ขวัญชีวา)
-เปิดเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” (ครูสุธน)
-การแสดงของนักเรียนชุด “ไตรรงค์ธงไทย” (ครูกาญจนา ควบคุมและกำกับกรแสดง)
-พิธีกรกล่าวขอบคุณประธานในพิธีและแขกผู้มีเกียรติ
-เสร็จพิธี
- sound 5 (ครูสุธน) คลอตอนแขกทยอยเดินทางกลับ (คณะผู้บริหารส่งแขก)


เสร็จพิธี 16.30 น.

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คำกล่าวรายงานพิธีเปิดกีฬานักเรียนปี 2551

คำกล่าวรายงานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์
“บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2551
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
วันพุธที่ 17 ธันวาคม 2551
ณ สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร

**************************
เรียน ท่านประธานในพิธี ท่านแขกผู้มีเกียรติ ท่านคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง/ และท่านผู้ปกครอง ที่เคารพทุกท่าน
ดิฉัน เด็กหญิงจินดาพร แซ่ด่าน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 1 ในนามของคณะกรรมการสภานักเรียน และนักเรียนทุกคน ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา ขอขอบพระคุณท่านประธานในพิธี ที่ได้ให้เกียรติ มาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา “บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2551 ในวันนี้ ดิฉัน ใคร่ขออนุญาตกล่าวความเป็นมาของการจัดการแข่งขันเพื่อกรุณาทราบ ดังนี้
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา ได้จัดการแข่งขันกีฬานักเรียนของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา “บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2551 ขึ้นในระหว่างวันที่ 16 – 19 ธันวาคม พุทธศักราช 2551 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านทักษะการแข่งขันกีฬา ด้านการจัดการแข่งขัน และมารยาทในการชมกีฬาให้แก่นักเรียน รวมทั้งในด้านความมีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และให้รู้จักการให้อภัย โดยมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวนทั้งสิ้น 785 คน โดยได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มสี คือ สีแดง สีชมพู สีเหลือง และ สีม่วง มีประเภทกีฬาที่ทำการแข่งขันรวม 17 ชนิด แบ่งเป็นกีฬาชนิดต่างๆ ดังนี้
กีฬามาตรฐาน จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอลท์ เซปักตะกร้อ เปตอง ปิงปอง บาสเก็ตบอล และกรีฑา
กีฬาภูมิปัญญาไทย จำนวน 9 ชนิด ได้แก่ มวยกระดิ่ง วิ่งวิบาก ตีไก่ วิ่งเก็บของ วิ่ง 3 ขา กระโดดไกล ชักกระเย่อ ขว้างไกล และวิ่งกระสอบ
โดยการแข่งขันกีฬาทั้งหมด เริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พุทธศักราช 2551 และได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันนี้ และจะมีพิธีปิดในวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พุทธศักราช 2551 ณ บริเวณสนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร
การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ โรงเรียนได้รับความกรุณา จากท่านผู้มีอุปการคุณต่างๆ ดังนี้
  • ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ได้อนุมัติให้ใช้สนามกีฬาต่างๆ ภายในค่ายบุรฉัตร เป็นสนามแข่งขัน
  • กองพันทหารช่างที่ 602 ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันบาสเกตบอล
  • กองพันทหารช่างที่ 52 ให้การสนับสนุนสนามแข่งขันฟุตบอล
  • กองพันทหารช่างที่ 51 ให้การสนับสนุนการสนามแข่งขันกรีฑาสนามกีฬากลาง การจุดคบเพลิง และเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในพิธีเปิดและปิด
  • และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือความร่วมมือของพ่อแม่ผู้ปกครอง คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ผู้บังคับหน่วย ประธานชุมชนในค่ายบุรฉัตร ประธานสโมสรนายทหารชั้นประทวนค่ายบุรฉัตร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ

บัดนี้ ได้เวลาเป็นอุดมมงคลฤกษ์แล้ว ดิฉันใคร่ขอเรียนเชิญท่านประธานในพิธี/ได้กรุณากล่าวให้โอวาทและกระทำพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา /“บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2551 ต่อไป ขอเรียนเชิญค่ะ

คำกล่าวประธานพิธีเปิดกีฬานักเรียน ปี 2551

คำกล่าวประธานในพิธีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
“บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑
ณ สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร

************************************

ขอขอบคุณ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา ที่ได้เชิญข้าพเจ้า มาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา “บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ ในวันนี้
การกีฬานับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เด็กและเยาวชน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีน้ำใจเป็นนักกีฬา และมีทักษะที่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้
การเป็นนักกีฬาที่ดี จะต้องหมั่นฝึกฝน มีความมานะพยายามอยู่เสมอถึงจะเป็นผู้ชนะได้ แต่ชนะในที่นี้ ควรหมายถึง ชนะใจตัวเอง ชนะใจคู่แข่งขัน และชนะใจคนดู ถึงจะเรียกว่า เป็นผู้ชนะที่แท้จริง
และข้าพเจ้าขอขอบคุณ แทนโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา ที่หลายท่าน หลายหน่วยงาน ได้ให้การสนับสนุน การจัดการแข่งขันกีฬาของนักเรียน ในครั้งนี้ ให้เป็นไปด้วยความสมบูรณ์
ท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้า ขออวยพรให้การแข่งขันกีฬาของนักเรียน โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ ทุกประการ
บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว ข้าพเจ้า ขอเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา “บูรณเกมส์” ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ ณ บัดนี้

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คำกล่าวถวายพระพร วันพ่อแห่งชาติ 4 ธ.ค.2551

ขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม

เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 81 พรรษา ที่เวียนมาในครานี้ ข้าพระพุทธเจ้า พันเอกสุชาต จันทรวงศ์ ผอ.รร.ทบอ.บูรณวิทยา พร้อมด้วย คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ผู้ปกครอง ชุมชน คณะครูและนักเรียน ขอร่วมกันแสดงความปลื้มปีติ และความจงรักภักดี ด้วยการถวายสัตย์ปฏิญาณโดยพร้อมเพรียงว่า จะสนองงานตามพระราชปณิธานให้บังเกิดผล อีกทั้งขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณแห่งพระรัตนตรัย พระบุญญาธิการแห่งสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าในอดีต และพระราชคุณธรรม สัมมาปฏิบัติ มาเป็นประธาน แล้วเชิญชวนราษฎรทุกหมู่เหล่าร่วมกันตั้งสัตยาธิษฐาน ขอพระราชกฤดาภินิหาร แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านี้ จงอภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ทรงพระเกษมสำราญ เจริญพระชนมสุขทุกประการด้วยจตุรพิธพรชัย สถิตย์คู่แผ่นดิน ส่องสว่างนำทางข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง ไปสู่ความสมบูรณ์พูนสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีคุณธรรมประจำใจ สมดังพระราชปณิธาน ตราบกาลนิรันดร์เทอญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ขอเดชะ

รายการแสดงบนเวทีวันพ่อแห่งชาติ เมื่อ 2 ธ.ค.2551

รายการแสดงของโรงเรียนกองทัพบอุปถัมภ์บูรณวิทยา
สนับสนุนสโมสรนายทหารชั้นประทวน ค่ายบุรฉัตร
ในกิจกรรมถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ
วันที่ 2 ธ.ค.2551 ณ บริเวณเวทีหน้าสโมสรนายทหารชั้นประทวน ค่ายบุรฉัตร
ระหว่างเวลา 18.00-21.00 น.

การแสดงก่อนเวลา
- เปิดวงบูรณแบนด์ เพลงหมู่ “พ่อแห่งแผ่นดิน” โดยนักร้องทุกคนทั้งครูและนักเรียน
-เพลง “ลูกสาวของพ่อ” โดยสภานักเรียน และนักร้องวงบูรณแบนด์
-เพลง “ยามเย็น” โดย ครูชมพูนุช กาบสุวรรณ (พร้อมรีวิว)
-เพลง “แสงเดือน” โดย ครูสิริภัทร เกษมวงศ์ (พร้อมรีวิว)
- เพลง “Falling Rain” โดย ด.ญ.ขวัญชีวา พันธ์ไทย และ ด.ญ.วาสนา วิทศิริ (พร้อมรีวิว)
- กล่าวสุนทรพจน์ “แผ่นดินของพ่อ แผ่นดินแห่งธรรม” โดย ด.ญ.ปรานัดดา แจ้งพลอย
- เพลง “ใกล้รุ่ง” โดย ครูชมพูนุช กาบสุวรรณ (พร้อมรีวิว)
- การแสดง “ดนตรี กวี ศิลป์” โดยนักเรียน ครูรุ่งชัยฯ ครูบุญสม และครูนิคม กำกับการแสดง
- เพลง “แสงเทียน” โดย ครูสิริภัทร เกษมวงศ์ (พร้อมรีวิว)
-การแสดง “รำดอกบัว” โดยครูอัมพร จุลกะนาค ควบคุมการแสดง

การแสดงในพิธี (เมื่อประธานมา)
-การแสดง “รำถวายพระพร” โดยครูอัมพร จุลกะนาค ควบคุมการแสดง
-เพลง “สรรเสริญพระบารมี” โดยนักร้องทุกคนทั้งครูและนักเรียน
-เพลง “สดุดีมหาราชา” โดยนักร้องทุกคนทั้งครูและนักเรียน

การแสดงหลังเสร็จพิธี
-รีวิวประกอบเพลง “ไตรรงค์ธงไทย”
-รีวิวประกอบเพลง “รักเธอประเทศไทย”

การแสดงของวงบูรณแบนด์ จนเลิกงาน
(เลิกงานประมาณ 21.00 น.)

กำหนดการ กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2551

กำหนดการ กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2551
วันที่ 4 ธ.ค.2551 ณ โรงพลศึกษา

08.00 น.
-แจกเทียนและดอกพุทธรักษาให้นักเรียนทุกคนติดตัวในตอนเช้า (เว้นครูให้มีเฉพาะเทียน)
-ผู้ปกครองทยอยเดินทางถึงโรงเรียน รับประทานอาหารว่าง (น้ำเต้าหู้ และกระหรี่ปั๊บ จัดโดยกลุ่มการงานฯ)บริเวณด้านข้างและด้านหน้าโรงพลศึกษา

08.30 น.
-นำนักเรียนทุกระดับชั้นตั้งแต่ อ.1-ม.3 เข้านั่งประจำที่บนอัฒจันทร์ในโรงพลศึกษา
-เชิญคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ประธานชุมชน ประธานสโมสรนายทหารประทวน เข้านั่งประจำที่ด้านหลังโซฟาประธาน และครูเข้านั่งประจำที่อัฒจันทร์ไม้ (คณะกรรมการนักเรียนติดดอกพุทธรักษาให้แขกที่มาร่วมงาน)

09.00 น.
-เชิญผู้ปกครองที่มาร่วมงาน เดินทางเข้าโรงพลศึกษาทางประตูลีลาวดี เข้านั่งตามเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ตามอัธยาศัย (เมื่อผู้ปกครองเดินเข้าประตู นักเรียนทุกคนร่วมรองเพลงต้อนรับด้วยเพลง ”ลูกสาวของพ่อ” ต่อเนื่องจนกว่าผู้ปกครองจะนั่งเรียบร้อย)
-พิธีกร กล่าวต้อนรับผู้ปกครอง ประธานในพิธี และแขกที่มาร่วมงาน กล่าวถึงความมุ่งหมายของการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ นำเข้าสู่ “MV ต้นไม้ของพ่อ”
-พิธีกรเชิญประธานในพิธี เปิดกรวยถวายราชสักการะและกลับลงมานั่งประจำที่
-การรำถวายพระพร (ครูอัมพร รับผิดชอบ)
-ประธานในพิธีขึ้นถวายพานพุ่ม และจุดเทียนชัย
-ประธานเดินกลับลงมาประจำที่ด้านล่างหน้าเวที คณะกรรมการนักเรียนต่อเทียนจากประธานและกระจายไปยังผู้ปกครองและนักเรียน
-VTR ถวายพระพร (เอามาจาก HCTV เสียงนักเรียน คำกลอนของโรงเรียน)
-ประธานกล่าวถวายพระพร
-หลังจากกล่าวจบ ทุกคนร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ต่อด้วย เพลงสดุดีมหาราชา
-พิธีมอบทุนการศึกษา (โดย ครูผดุงศักดิ์ หน.งานแนะแนว)
-ประธานพิธีขึ้นกล่าวปราศรัยเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ และนำนักเรียนเข้าสู่พิธีกราบพ่อ
-นักเรียนร้องเพลงหมู่ ลูกสาวของพ่อ
-นักเรียนทยอยลงจากอัฒจันทร์ลงไปกราบพ่อของตัวเอง
-ตัวแทนพ่อ ขึ้นกล่าวความรู้สึก บนเวที
-ประธานในพิธี มอบของที่ระลึกให้ตัวแทนพ่อ
-การแสดงชุด “ไตรรงค์ธงไทย”
-การแสดง “รักเธอประเทศไทย”
-ถ่ายรูปร่วมกัน
-เสร็จพิธี

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2551 ทางโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา ได้จัดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.2551 เหตุผลที่มาจัดตอนเย็นวันที่ 15 ส.ค.2551 ก็เพื่อให้ตรงกับโครงการตลาดนัดบูรณะ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่มาตลาดนัดได้ร่วมพิธีด้วย

คำกล่าวถวายราชสดุดีฯ ของ พ.อ.สุชาต จันทรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ มีข้อความดังนี้ (ปรับปรุงมาจากคำกล่าวถวายราชสดุดีฯ ของรัฐบาล เมื่อ 12 ส.ค.2551)

ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า พันเอกสุชาต จันทรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา พร้อมด้วยคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง พ่อค้า แม้ค้า พร้อมเหล่าพสกนิกรที่อยู่ในตลาดนัดบูรณะ (ถนนคนเดิน ลานกีฬาและวัฒนธรรม) แห่งนี้ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นล้นพ้น จึงพร้อมใจกันร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ซึ่งเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 12 สิงหาคม ศกนี้

ข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยทุกคน ต่างประจักษ์ว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอันหนัก เพื่อปวงประชามาเป็นเวลานานกว่า 58 ปี ที่ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ปวงชนชาวไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงตรากตรำพระวรกาย บำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และพระราชทรัพย์ เพื่อทรงนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่อาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระเมตตากรุณา และพระราชจริยวัตรอันงดงาม เป็นที่ประจักษ์ของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก

โครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ ที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยพระปรีชาญาณ และพระอัจฉริยภาพของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใหญ่หลวงแก่ประชากรสาขาอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะเกษตรกรและราษฎรในชนบท ได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า มีรายได้เพิ่มพูนเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งยังทรงช่วยส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรม ส่งเสริมงานศิลปะช่างฝีมือทุกแขนง ให้ดำรงคงอยู่คู่ประเทศและสืบทอดถึงอนุชนอาณาประชาราษฎร์ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอย่างทั่วถ้วน อีกทั้งพระปรีชาสามารถ และพระเกียรติคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ยังเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกอย่างกว้างขวาง และเป็นที่ยกย่องเทิดทูนกันทั่วไป

ในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระราชานุญาต นำคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง พ่อค้า แม้ค้า พร้อมเหล่าพสกนิกรที่อยู่ในตลาดนัดบูรณะ แห่งนี้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ดังต่อไปนี้

(ทุกคนกล่าวตามข้าพเจ้า)
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย/ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย/ และอานุภาพสรรพ/ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล/ โปรดอภิบาลประทานชัยมงคล/ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ/ ให้ทรงพระเจริญสิริสวัสดิ์ /พรั่งพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย/ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลไปทั่วทุกทิศานุทิศ/ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด/ ขอจงสัมฤทธิ์ /สมดังพระราชหฤทัยปรารถนา /ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้า/ ของเหล่าพสกนิกร/ ตราบกาลนิรันดร์ เทอญ”
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551

โครงการส่งเสริมให้นกเรียนผลิตสินค้าขายสหกรณ์โรงเรียนฯ

แบบเสนอโครงการ
ในการขอสนับสนุนเงินกองทุนพัฒนาชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าฯ
สำหรับกองทุน บริษัท ไตรเอนเนอจี้ จำกัด


ส่วนราชการ / ตำบล เกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

1.ชื่อโครงการ ส่งเสริมให้นกเรียนผลิตสินค้าขายสหกรณ์โรงเรียนฯ

2.พื้นที่ดำเนินการ โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา หมู่ที่ 7 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

3. ประเภทโครงการ ( ให้กาเครื่องหมาย / ในช่อง )
3.1 / โครงการเกี่ยวกับการพัฒนาอาชีพ
3.2 โครงการการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา และการดนตรี
3.3 โครงการสาธารณสุข และสุขภาพอนามัย
3.4 โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต
3.5 โครงการดูและพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
3.6 โครงการบรรเทาความเสียหายในเบื้องต้นจากผลกระทบที่มีสาเหตุจากโรงไฟฟ้า
3.7 โครงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และพลังงานทดแทน
3.8 โครงการตามที่คณะกรรมการกองทุนฯ กำหนด ..................................................
……………………………………………………………………………………………………

4. เหตุผลความจำเป็น
การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา ได้จัดตั้งชุมนุมสหกรณ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เกิดกระบวนการคิดริเริ่มในการทำงานกลุ่ม และเสริมสร้างทักษะในการแสวงหาความรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นักเรียนที่เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนส่วนใหญ่อาศัยบริเวณภายนอกค่ายบุรฉัตร ซึ่งผู้ปกครองมีฐานะค่อนข้างยากจน ขัดสนค่าใช่จ่าย ทำให้นักเรียนมีอุปสรรคต่อการเรียน ทางโรงเรียนฯ จึงจัดทำโครงการส่งเสริมให้นักเรียนผลิตสินค้าขายสหกรณ์ โดยโรงเรียนฯ มีความต้องการจัดสรรทุนในการผลิตให้นักเรียน เพื่อผลิตภัณฑ์หรือผลผลิตของตนเองมาจำหน่ายในรูปสหกรณ์ เพื่อเป็นการเสริมรายได้ให้กับนักเรียนเพื่อเป็นทุนการศึกษา

5. วัตถุประสงค์ของโครงการ
5.1 เพื่อให้นักเรียนใช้ความรู้และทักษะที่ได้เรียนมาผลิตสินค้าของตนเอง
5.2 เพื่อให้นักเรียนมีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น
5.3 เพื่อให้นักเรียนรู้จักวางแผนงานธุรกิจ และการทำงานในระบบสหกรณ์

6. เป้าหมายโครงการ
6.1 นักเรียนสามารถผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในสหกรณ์อย่างน้อย 10 ผลิตภัณฑ์
6.2 นักเรียนมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้ามาใช้ประโยชน์ในการศึกษา ประมาณ 60 คน

7. วิธีดำเนินการ / ลักษณะงานที่ทำ
7.1 ประชุมนักเรียนระดับชั้น ป.4 – ม.3 เพื่อชี้แจ้งรายละเอียดโครงการ
7.2 เปิดรับสมัครนักเรียนเข้าร่วมโครงการ
7.3 นักเรียนส่งรายละเอียดของสินค้าที่นำมาจำหน่ายและแผนธุรกิจ
7.4 คณะกรรมการจัดสรรทุนเพื่อใช้ในการดำเนินงาน
7.5 ลงมือผลิตและจำหน่ายสินค้า
7.6 สรุปผลการดำเนินธุรกิจเมื่อสิ้นปีการศึกษา 2551

8. ระยะเวลาดำเนินการ
ตลอดปีการศึกษา 2551 ( 1 ก.ค. 51 – 25 ก.พ. 52 )

9. งบประมาณที่ใช้
จำนวนเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)

10. ประมาณค่าใช้จ่ายแนบท้ายโครงการ

11. ประโยชน์ที่ได้รับ
11.1 นักเรียนมีรายได้ใช้ในการประกอบการเรียนและชีวิตประจำวัน
11.2 นักเรียนรู้จักประยุกต์ความรู้ที่ได้จากการทำโครงการไปประกอบอาชีพในชีวิตจริง
11.3 นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในระบบสหกรณ์มากขึ้น ซึ่งจะเผยแพร่แนวคิดและวิธีการไปยังชุมชนของตนเอง
11.4 นักเรียนมีความภูมิใจที่สามารถหารายได้กับตนเองและแบ่งเบาภาระครอบครัว

12. หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา

13. ผู้เสนอโครงการ

( ลงชื่อ )
( นายวีระ งามเปราะ )
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพลับพลา

( ลงชื่อ )
( นางวรรณวิไล ประสานนาม )
กำนันตำบลเกาะพลับพลา

14. ผู้อนุมัติโครงการ
( ลงชื่อ )
(นายทวี นริสศิริกุล )
นายอำเภอเมืองราชบุรี
__________


ประมาณค่าใช้จ่ายโครงการส่งเสริมให้นักเรียนผลิตสินค้าขายสหกรณ์โรงเรียน
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา


ผลิตภัณฑ์ “ลูกชุบ”
อุปกรณ์
1. เตาแก๊ส 1 ชุด ( เตา , ถังแก๊ส , วาวพร้อมสาย ) 6,500 บาท
2 กระทะทอง ขนาด 18 นิ้ว จำนวน 2 ใบละ 2,020 บาท เป็นเงิน 4,040 บาท
3. ถาด 3 ใบๆ ละ 100 บาท เป็นเงิน 300 บาท
4. ชามผสม ขนาด 30 เซนติเมตร 1 ใบ 450 บาท
5. เครื่องปั่นน้ำผลไม้ 2 เครื่องๆ 1,500 บาท 3,000 บาท
6. โฟมขนาด 3 นิ้ว 1 แผ่น 80 บาท
7. พายไม้ 2 ด้ามๆ ละ 30 บาท 60 บาท
8. พายยาง 1 อัน 20 บาท
รวมค่าอุปกรณ์เป็นเงิน 14,450 บาท

ค่าวัตถุดิบในการลงทุนครั้งแรก
1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก 6 กิโลกรัมๆ ละ 40 บาท 240 บาท
2. สีผสมอาหาร 10 สี จำนวน 3 ชุดๆ ละ 200 บาท 600 บาท
3. น้ำตาลทราย 6 กิโลกรัม ๆ ละ 25 บาท 150 บาท
4. ผงวุ้น 12 ซองๆ ละ 30 บาท 360 บาท
5. มะพร้าว 12 กิโลกรัมๆ ละ 30 บาท 360 บาท
6. เทียนอบขนม 6 แท่งๆ ละ 10 บาท 60 บาท
7. ไม้ปลายแหลม 6 ห่อๆ ละ 30 บาท 180 บาท
รวมค่าวัตถุดิบในการลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 1950 บาท

รวมค่าใช้จ่ายในการผลิต “ผลิตภัณฑ์ลูกชุบ” เป็นเงินทั้งสิ้น 16,400 บาท
(หนึ่งหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน)

¯¯¯¯¯¯¯¯¯


ผลิตภัณฑ์ศิลปะจากหินทราย
อุปกรณ์
1. ยางซิลิโคลน 4 ชุด 3,600 บาท
2. ดินน้ำมันปั้นแบบ 2,400 บาท
3. ปูนปาสเตอร์ 2,000 บาท
4. โต๊ะสำหรับผลิต 2 ตัว 4,500 บาท
5. ตะแกรงเหล็กสำหรับวางผลิตภัณฑ์ที่หล่อ 3,200 บาท
รวมค่าอุปกรณ์เป็นเงิน 15,700 บาท

ค่าวัสดุในการลงทุนครั้งแรก
1. ปูนซีเมนต์ขาว 8 กระสอบ 2,400 บาท
2. ทรายละเอียด 3,000 บาท
รวมค่าวัสดุในการลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 5,400 บาท

รวมค่าใช้จ่ายในการผลิต “ผลิตภัณฑ์ศิลปะจากหินทราย” เป็นเงินทั้งสิ้น 21,100 บาท
(สองหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยบาทถ้วน)

¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯
ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติก
อุปกรณ์
1. ภาชนะต้มเทียน 700 บาท
2. เตาต้มเทียน 1,100 บาท
3. ปากกาเทียน เบอร์ S,M,L 800 บาท
4. กรอบไม้ 1,000 บาท
5. หม้อต้มผ้า 300 บาท
รวมค่าอุปกรณ์เป็นเงิน 3,900 บาท

ค่าวัสดุในการลงทุนครั้งแรก
1. ผ้าเส้นใยธรรมชาติ (ผ้ามัสลิน, ผ้าลินิน, ผ้าฝ้าย) 3,000 บาท
2. ขี้ผึ้งแท้, พาราฟิน 2,000 บาท
3. สีบาติก 12 สี จำนวน 2 ชุด 2,000 บาท
4. น้ำยาเคลือบผ้า 1,600 บาท
รวมค่าวัสดุในการลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 8,600 บาท

รวมค่าใช้จ่ายในการผลิต “ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติก” เป็นเงินทั้งสิ้น 12,500 บาท
(หนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยบาทถ้วน)


¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ตำนาน ขนมหม้อแกง


เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.2551 ผมได้เดินทางไป จ.เพชรบุรี ระหว่างที่รถติดไฟแดงอยู่บน ถ.เพชรเกษม นั้น ก็มีคนเดินมาแจกใบปลิวโฆษณาขนมหม้อแกงเมืองเพชร “แม่กิมลั้ง” ผมก็รับมา เมื่ออ่านข้อความบางส่วนในใบปลิวแล้ว จึงได้รู้ว่า ขนมหม้อแกง ที่มีชื่อเสียงของเมืองเพชรบุรี นั้น ได้รับการขนานนามในสมัยก่อนว่า “ขนมกุมภมาศ” ผมจึงได้คัดลอกข้อความจากใบปลิวนั้น มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเพื่อประดับความรู้ ดังนี้

ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อาณาจักรสยามประเทศอยู่ในความสงบสุข ไม่มีศึกสงคราม มีคณะฑูต และบาทหลวงจากประเทศต่างๆ เข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรีจนถือว่าเป็นยุคทองแห่งการฑูตไทย และยุคทองแห่งวรรณคดี มีข้าราชการอยู่คนหนึ่งซึ่งพระเจ้ากรุงสยามได้ยกย่องตั้งให้เป็นพระซึ่งเป็นตำแหน่งชั้นที่ 2 ของเมืองนี้ ขุนนางผู้นี้ชื่อ “คอนสแตนตินฟอลคอล” ซึ่งเป็นคนที่ฉลาด มีไหวพริบตรึกตรองการลึกซึ้ง ทำการค้าขายมากกว่าพ่อค้าทั้งปวง คอนสแตนตินฟอลคอล ได้รับตำแหน่งแต่งตั้งเป็น “เจ้าพระยาวิชาเยนทร์” และได้แต่งงานกับ คุณท้าวทองกีบม้า (เชื้อชาติญี่ปุ่น สัญชาติโปรตุเกส) ต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ประเทศสยามมีการเปลี่ยนแปลง การปกครองขุนนางชาวต่างชาติ รวมถึง คอนแตนตินฟอลคอล ถูกประหารชีวิต

คุณท้าวทองกีบม้า ถูกนำตัวไปขังเกือบ 2 ปี จึงได้ถูกปลดปล่อย แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องทำขนมหวานส่งเข้าไปในวังตามอัตราที่กำหนดไว้ ทั้งนี้เพราะเป็นผู้มีชื่อเสียงในการทำอาหารคาวหวานได้อย่างยอดเยี่ยม

จุดเปลี่ยนโฉมหน้าของขนมไทยครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ คุณท้าวทองกีบม้า เริ่มทำขนมหวาน คือ ขนมทองหยิบ ขนมทองหยอด ขนมฝอยทอง ขนมโปร่ง ขนมพล ขนมผิง ขนมไข่เต่า ขนมท้องม้วน ขนมสัมปันนี และขนมหม้อแกง ซึ่งนำไข่มาเป็นส่วนประกอบหลัก และสอนให้ชาวสยามทำอาหารต่างๆ จนเป็นความรู้ติดตัว ด้วยมีรสชาติของไข่และน้ำตาล เป็นส่วนประกอบทำให้ขนมต่างๆ โดยเฉพาะขนมหม้อแกง ที่ได้รับความนิยมชมชอบจากเจ้านายชั้นสูงในรั้วในวัง และได้รับการขนานนามขนมหม้อแกงว่า “ขนมกุมภมาศ”

เมื่อลูกมือในบ้านคุณท้าวทองกีบม้าแต่งงาน ก็นำความรู้ที่ได้รับไปทำและเผยแพร่ต่อไปอีก ทำให้ตำรับการทำขนมคาวหวานที่เป็นของสูงในพระราชวังได้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่ประชาชน และสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2529 จ.เพชรบุรี มีการบูรณะพระนครคิรีให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชาวบ้านในละแวกนั้นได้ทำขนมหม้อแกงออกจำหน่าย ทำให้ขนมหม้อแกงเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี และรู้จักกันแพร่หลายมาตราบชั่วทุกวันนี้

ที่มา : ใบปลิวโฆษณาขนมหม้อแกงเมืองเพชรแม่กิมลั้ง (12 ก.ค.2551) อ้างอิงจาก น.ส.พ.เพชรนิว ฉบับเดือนธันวาคม พ.ศ.2547 (อ้างอิงต่อจาก หนังสือประชุมพงศาวดารที่ 40 ฉบับหอสมุดแห่งชาติ เรื่อง จดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสำเนาจดหมายมองซิเออร์เคลานด์ ไปถึง มองซิเออร์ บารอง ผู้อำนวยการใหญ่ในประเทศสยาม ลงวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.1628(พ.ศ.2225))

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การบรรยายพิเศษ โครงการ “วัยใสดวงใจพ่อแม่” โดย พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

กำหนดการการบรรยายพิเศษ
โครงการ “วัยใสดวงใจพ่อแม่”
ของ โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยาวันพุธที่ 25 มิ.ย.2551ณ โรงพลศึกษา โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
-------------

เวลา 08.00-09.00 น. แขกผู้มีเกียรติและผู้ปกครองเริ่มทยอยเดินทางมายังบริเวณโรงพลศึกษา และเข้านั่งประจำที่ (บริเวณอัฒจันทร์ในโรงพลศึกษา)
เวลา 08.10 น. นักเรียนช่วงชั้น 2 และ 3 ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา เข้านั่งประจำตามเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ในโรงพลศึกษา
เวลา 08.30 น. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้บริหารและคณะครู จากโรงเรียนต่างๆ รอบค่ายบุรฉัตร จำนวน 11 โรงเรียน ถึงบริเวณโรงพลศึกษา เข้านั่งประจำที่ ตามเก้าอี้ที่จัดไว้ในโรงพลศึกษา
เวลา 08.35 น. พิธีกรกล่าวต้อนรับนักเรียน ผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครองและแขกผู้มีเกียรติ พร้อมทั้งแจ้งกำหนดการงานในวันนี้ และนำเข้าสู่การแสดง
เวลา 08.40 น. การแสดงชุด “วัยใสห่างไกลยาเสพติด” ของ นักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ของ รร.ทบอ.บูรณวิทยา
เวลา 08.45 น. การกล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ “ผู้ให้ชีวิต” ของ ด.ญ.ขวัญชีวา พันธ์ไทย ประธานนักเรียน รร.ทบอ.บูรณวิทยา
เวลา 08.55 น. พิธีกรแนะนำวิทยากรและนำเข้าสู่การบรรยาย
เวลา 09.00 น. การบรรยายหัวข้อ “ธรรมมะกับวัยรุ่น” โดย พระมหาสมปอง ตาลฺปุตโต และ พระครูวินัยธรชาติ กิตฺติธโร
เวลา 11.00 น. จบการบรรยาย ประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองกล่าวขอบคุณและมอบเงินทำบุญแด่พระวิทยากร เสร็จพิธี นักเรียน ผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครองและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมถ่ายรูป กับพระวิทยากร เป็นที่ระลึก
------------------

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551

กำหนดการพิธีไหว้ครูปีการศึกษา 2551

กำหนดการพิธีไหว้ครูประจำปีการศึกษา 2551
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย.2551 ณ โรงพลศึกษา

­­­­­­­­08.00 น. นักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติตามปกติ และเมื่อเคารพธงชาติเสร็จ

  • ครูทหารและพี่เลี้ยง นำนักเรียนเข้านั่งประจำที่ในโรงพลศึกษาทางประตูลีลาวดี ทีละห้อง ตั้ง อ.1/1 จนถึง ม.3/2 (ให้นั่งหันหน้ามาทางอัฒจันทร์เก้าอี้ไม้)
  • ครูผดุงศักดิ์ ภัตติชาติ นำนักเรียนทั้งโรงเรียนนั่งสมาธิ (ประมาณ 10 นาที)
  • เมื่อได้เวลา คณะครูเดินเข้าโรงพลศึกษาทางประตูลีลาวดี เรียงตามลำดับเป็นแถวตอน ตั้งแต่ ผู้อำนวยการ ครูพิเศษ และครูประจำชั้น (ตามลำดับห้อง) เข้านั่งประจำที่ตามที่กำหนด (เมื่อครูเริ่มเดินเข้า ให้ประธานนักเรียนสั่ง “นักเรียนทำความเคารพคุณครู” หลังจากทำความเคารพเสร็จให้นั่งอยู่ในอาการสงบ และระหว่างเดินเข้าประตูจนกระทั่งนั่งประจำที่ ให้ดนตรีเปิดเพลง “พระคุณที่สาม”)
  • เมื่อครูนั่งประจำที่เรียบร้อย ให้ประธานนักเรียน กล่าว “ในลำดับต่อไป ขอกราบเรียนเชิญ คุณครูอัมพร จุลกะนาค เป็นผู้แทนครูจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย” (เมื่อครูอัมพรเดินขึ้นไป ให้นักเรียนทั้งหมดหันตามไปทางเวทีโดยอัตโนมัติ ดนตรีเปิดเพลง “พระคุณที่สาม” คลอเบาๆ หลังจากจุดเทียนธูปเสร็จ คุณครูอัมพรฯ กลับลงมานั่งที่เดิม)
  • ประธานนักเรียน นำสวดมนต์
  • เมื่อสวดมนต์เสร็จเรียบร้อย ประธานนักเรียนกล่าว “ลำดับต่อไป ขอเรียนเชิญคุณครูทุกท่าน เข้านั่งประจำที่ เพื่อให้พวกเรา เหล่าบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ได้กระทำพิธีไหว้ครูต่อไป คะ”
  • คุณครูเดินเข้านั่งประจำที่ด้านหน้าเวที
  • ประธานนักเรียนนำเข้าสู่ บทไหว้ครู กล่าวคำปฎิญาณ และร้องเพลง “พระคุณที่สาม”ทั้งโรงเรียน
  • เมื่อร้องเพลงจบให้ตัวแทนห้องนำพานดอกไม้ไปประจำที่ตรงหน้าครูประจำชั้นของตัวเอง ส่วนประธานและคณะกรรมการนักเรียนนำดอกไม้ไปประจำที่ ตรงหน้าผู้อำนวยการและครูพิเศษตามลำดับ
  • ดนตรีเปิดเพลง “คนเก่ง คนดี” (รอจนจบเนื้อ ปาเจราจริยาโหตุ คุณุตรานุสการ ...เมื่อดนตรีเริ่มบรรเลง ให้ตัวแทนห้องและคณะกรรมการนักเรียนเริ่มกระทำพิธีไหว้ครู)
  • หลังจากนั้นนักเรียนแต่ละห้อง ทยอยเข้าแถวไหว้ครูประจำชั้นของตัวเองทีละคน แล้วกลับมานั่งที่เดิม
  • เมื่อเสร็จพิธีไหว้ครูนักเรียนกลับมานั่งประจำที่เดิม
  • ประธานนักเรียน นำหนังสือไปให้ผู้อำนวยการ กระทำพิธีเจิม แล้วนำกลับมาไว้ที่เดิม
  • ต่อจากนั้น ประธานนักเรียน กล่าว “ในลำดับต่อไป ขอเรียนเชิญ คุณครูอัมพร จุลกะนาค เป็นผู้แทนครูกราบลาพระรัตนตรัย” (เมื่อครูอัมพรเดินขึ้นไป ดนตรีเปิดเพลง “คนเก่ง คนดี ” คลอเบาๆ )
  • เสร็จพิธี


    ­­­­­­­­

บทไหว้ครู คำปฎิญาณ และเนื้อเพลงพระคุณที่สาม

บทไหว้ครู
ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา
ข้าฯขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอร์ปเกิดประโยชน์ศึกษา
อีกทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าฯ ขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าฯ และประเทศไทยเทอญ

คำปฏิญาณตน
เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เรานักเรียน จักต้องประพฤติตน ให้อยู่ในระเบียบวินัย ของโรงเรียน
เรานักเรียน จักต้องไม่ทำตน ให้เป็นที่เดือดร้อน แก่ตนเอง และผู้อื่น

เนื้อเพลงพระคุณที่สาม
ครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทานความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบชั่วดี
ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที
ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น

ครูมีบุญคุณจะต้องเทิดทูลเอาไว้เหนือเกล้า
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เราไม่เว้น
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น
สอนให้รู้จัดเจน เฝ้าแนะ เฝ้าเน้น มิได้อำพราง

* พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส
แต่ว่าใครหนอใคร เปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็นว่าผิดทาง
มีใครไหนบ้างแนะนำแนวทางอย่างครู

บุญเคยทำมาตั้งแต่ปางใด เรายกให้ท่าน
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู
โรคและภัย อย่ามาแผ้วพานคุณครู
ขอกุศลผลบุญค้ำชู ให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร...

ร้องซ้ำ *
ให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร...

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ภาวะโลกร้อน (Global Warming)


ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน สังเกตได้จาก อุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักของปัญหานี้ มาจาก ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gases)

ปรากฏการณ์เรือนกระจก มีความสำคัญกับโลก เพราะก๊าซจำพวก คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน จะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด (และ ตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีบรรยากาศ กรองพลังงาน จาก ดวงอาทิตย์) ซึ่งการทำให้โลกอุ่นขึ้นเช่นนี้ คล้ายกับหลักการของ เรือนกระจก (ที่ใช้ปลูกพืช) จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect)

แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ CO2 ที่ออกมาจาก โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ หรือการกระทำใดๆที่เผา เชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ) ส่งผลให้ระดับปริมาณ CO2 ในปัจจุบันสูงเกิน 300 ppm (300 ส่วน ใน ล้านส่วน) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 แสนปี
ซึ่ง คาร์บอนไดออกไซด์ ที่มากขึ้นนี้ ได้เพิ่มการกักเก็บความร้อนไว้ในโลกของเรามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็น ภาวะโลกร้อน ดังเช่นปัจจุบัน

ภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มานี้ ได้มีการบันทึกถึงปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533, พ.ศ.2538 และปี พ.ศ. 2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรง และต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการแก้ไขออกไปเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และบุคคลที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง

สาเหตุ
ภาวะโลกร้อนเป็นภัยพิบัติที่มาถึง โดยที่เราทุกคนต่างทราบถึงสาเหตุของการเกิดเป็นอย่างดี นั่นคือ การที่มนุษย์เผาผลาญเชื้อเพลิงฟอซซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตพลังงาน เราต่างทราบดีถึงผลกระทบบางอย่างของภาวะโลกร้อน เช่น การละลายของน้ำแข็งในขั้วโลก ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง การแพร่ระบาดของโรคร้ายต่างๆ อุทกภัย ปะการังเปลี่ยนสีและการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ประเทศตามแนวชายฝั่ง ประเทศที่เป็นเกาะ และภูมิภาคที่กำลังพัฒนาอย่างเอเชียอาคเนย์

จากการทำงานของคณะกรรมการของรัฐบาลนานาชาติ ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีองค์การวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ เฝ้าสังเกตผลกระทบต่างๆ และได้พบหลักฐานใหม่ที่แน่ชัดว่า จากการที่ภาวะโลกร้อนขึ้นในช่วง 50 กว่าปีมานี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นในทุกหนทุกแห่ง ประมาณ 1.4-5.8 องศาเซลเซียส

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดได้แก่ ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง วาตภัย อุทกภัย พายุฝนฟ้าคะนอง พายุทอร์นาโด แผ่นดินถล่ม และการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน จากภาวะอันตรายเหล่านี้พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่เสี่ยงกับการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่และช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า การที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตเพื่อการบริโภคโดยรวมลดลง ซึ่งทำให้จำนวนผู้อดอยากหิวโหยเพิ่มขึ้นอีก 60-350 ล้านคน

ในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ มีโครงการพลังงานต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้น และการดำเนินงานของโครงการเหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงของฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล และปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละช่วงได้เปลี่ยนแปลงไป การบุกรุกและทำลายป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ การสูงขึ้นของระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิของน้ำทะเล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศน์วิทยาตามแนวชายฝั่ง และจากการที่อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนสีของน้ำทะเล ดังนั้น แนวปะการังต่างๆ จึงได้รับผลกระทบและถูกทำลายเช่นกัน

ประเทศไทยเป็นตัวอย่างของประเทศที่มีชายฝั่งทะเล ที่มีความยาวประมาณ 2,490 กิโลเมตร และเป็นแหล่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และความไม่แน่นอนของฤดูการที่ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรม มีการคาดการณ์ว่า หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 1 เมตรภายในทศวรรษหน้า หาดทรายและพื้นที่ชายฝั่งในประเทศไทยจะลดน้อยลง สถานที่ตากอากาศชายทะเล รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา และ ระยองจะได้รับผลกระทบโดยตรง แม้แต่กรุงเทพมหานคร ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้เช่นกัน

ปัญหาด้านสุขภาพ ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนี้ด้วย เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของยุ่งมากขึ้น ซึ่งนำมาสู่การแพร่ระบาดของไข้มาเลเรียและไข้ส่า นอกจากนี้โรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น อหิวาห์ตกโรค ซึ่งจัดว่าเป็นโรคที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วโรคหนึ่งในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น คนยากจนเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ประกอบกับการให้ความรู้ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ยังมีไม่เพียงพอ
ปัจจุบันนี้สัญญาณเบื้องต้นของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ปรากฏขึ้นอย่างแจ้งชัด ดังนั้น สมควรหรือไม่ที่จะรอจนกว่าจะค้นพบข้อมูลมากขึ้น หรือ มีความรู้ในการแก้ไขมากขึ้น ซึ่ง ณ เวลานั้นก็อาจสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขได้

ที่มา :
http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/lopburi/usa_s/global_warming/index.html

ความเป็นมาวันสิ่งแวดล้อมโลก

ความตื่นตัวในวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของโลกเริ่มขึ้นอย่างจริงจังเมื่อรัฐบาลสวีเดนได้เสนอต่อองค์การสหประชาชาติถึงวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อม อันประกอบด้วยวิกฤตการณ์ต่าง ๆ คือ
· การขาดแคลนอาหาร
· วิกฤตการณ์ด้านพลังงาน
· อัตราการเพิ่มของประชากรที่สูงมาก
· ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก
ดังนั้นองค์การสหประชาชาติร่วมกับรัฐบาลสวีเดนจึงได้จัดการประชุมที่เรียกว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" (UN CONFERENCE ON THE HUMAN ENVIRONMENT) ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 โดยใช้เวลาเตรียมการประชุมครั้งนี้ถึง 3 ปี เพื่อจัดทำร่างข้อเสนอต่าง ๆ รวมทั้งแผนการดำเนินการและปฏิญญาว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์

ในการประชุมครั้งนี้มีผู้ร่วมเข้าประชุมถึง 1,200 คน จาก 113 ประเทศ นอกจากนั้น ยังมีผู้สังเกตการณ์อีกกว่า 1,500 คน จากหน่วยงานรัฐ องค์การสหประชาชาติ สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ และตัวแทนเยาวชนและกลุ่มนักศึกษาจากทั่วโลก ซึ่งผลการประชุมนับว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม เพราะเป็นครั้งแรกที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ได้หันหน้าเข้าหากันเพื่อเพื่อร่วมขจัดภยันตรายด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังคุกคามโลกของเรา และมีการตกลงที่จะร่วมมือในด้านต่าง ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญคือ องค์การสหประชาชาติได้จัดตั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP : UNITED NATIONS ENVIRONMENT PROGRAMME) ขึ้น และรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็ได้รับข้อตกลงจากการประชุมคราวนั้น จัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน รวมทั้งประเทศไทย รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 และก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในปีเดียวกัน

ดังนั้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงจุดเริ่มต้น ของการร่วมมือระหว่างชาติทั่วโลกในด้านสิ่งแวดล้อม วันที่ 5 มิถุนายน อันเป็นวันเริ่มการประชุม ครั้งยิ่งใหญ่นี้ จึงได้รับประกาศให้เป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก" (WORLD ENVIRONMENT DAY)

วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

กิจกรรมชุมนุมโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา

ความหมาย
กิจกรรมชุมนุม หมายถึง การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเติมเต็มความรู้ ความชำนาญและประสบการณ์ของผู้เรียนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อการค้นพบความถนัดความสนใจของตนเอง และพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพ ตลอดจนการพัฒนาทักษะของสังคม และปลูกฝังจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม

หลักการ
การจัดกิจกรรมชุมนุม มีหลักการที่สำคัญคือ
1. เป็นกิจกรรมที่เกิดจากความสมัครใจของผู้เรียน โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา
2. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และช่วยกันแก้ปัญหา
3. เป็นกิจกรรมที่พัฒนาผู้เรียนตามสาระที่กำหนดนอกเหนือจากการเรียนการสอน
4. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน
5. เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา หรือท้องถิ่น

วัตถุประสงค์
การจัดกิจกรรมชุมนุม มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
1. พัฒนาความรู้ ความสามารถ ด้านการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อให้เกิดทักษะประสบการณ์ ทั้งวิชาการและวิชาชีพตามศักยภาพ
2. มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์
3. มีสุขภาพและบุคลิกภาพทางด้านร่างกายและจิตใจที่ดี
4. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
5. มีมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในระบอบประชาธิปไตย

พฤติกรรมบ่งชี้ และเป้าหมาย
จากวัตถุประสงค์ดังกล่าว สามารถกำหนดพฤติกรรมบ่งชี้หรือตัวชี้วัดและเป้าหมายการจัดกิจกรรมได้ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ : พัฒนาความรู้ ความสามารถ ด้านการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อให้เกิดทักษะ ทั้งประสบการณ์และวิชาชีพตามศักยภาพ
พฤติกรรมบ่งชี้/ตัวชี้วัด :
1.1 มีการจัดทำโครงงาน/ ผลงาน/ชิ้นงาน
1.2 เกิดทักษะการคิด การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา
1.3 มีทักษะการวางแผนและการจัดการ
1.4 รู้เข้าใจความสนใจความถนัดและศักยภาพของตน
1.5 ใช้ภาษาในการสื่อสารได้ถูกต้อง
1.6 มีจินตนาการความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
เป้าหมายการจัดกิจกรรม : ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้และทักษะจนเกิดเป็นโครงงาน ผลงาน ชิ้นงานตามศักยภาพของแต่ละบุคคล

วัตถุประสงค์ : มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์
พฤติกรรมบ่งชี้ / ตัวชี้วัด :
2.1 มีกิริยามารยาทที่ดี
2.2 มีระเบียบวินัย
2.3 มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
2.4 มีความซื่อสัตย์สุจริต
2.5 มีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตน
2.6 มีความสามัคคี
2.7 มีน้ำใจต่อครู เพื่อนและผู้อื่น
2.8 รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
2.9 ตรงต่อเวลา
2.10 อนุรักษ์ พัฒนาและรักษาสมบัติของโรงเรียน
เป้าหมายการจัดกิจกรรม : ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยม ที่พึงประสงค์เป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นได้

วัตถุประสงค์ : มีสุขภาพและบุคลิกภาพด้านร่างกายและจิตใจที่ดี
พฤติกรรมบ่งชี้ /ตัวชี้วัด :
3.1 รู้จักการรักษาสุขภาพส่วนตัว
3.2 ร่าเริงแจ่มใส มีความมั่นคงทางอารมณ์
3.3 อดทน อดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุ
3.4 มีสมาธิต่อการทำงาน
3.5 มีสุนทรียภาพทางอารมณ์
เป้าหมายการจัดกิจกรรม : ผู้เรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี และดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

วัตถุประสงค์ : ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
พฤติกรรมบ่งชี้ / ตัวชี้วัด :
4.1 บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม
4.2 ใช้เวลาที่มีให้เกิดประโยชน์
เป้าหมายการจัดกิจกรรม : ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม

วัตถุประสงค์ : มีมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในระบอบประชาธิปไตย
พฤติกรรมบ่งชี้ / ตัวชี้วัด :
5.1 มีความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
5.2 สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
5.3 เคารพในกฎ กติกาของกลุ่มและสังคม
5.4 รับฟังและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
เป้าหมายการจัดกิจกรรม : ผู้เรียนสามารทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

การบริหารงาน
การบริหารงานการจัดกิจกรรมชุมนุม ให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร มีแนวทางการดำเนินงานดังนี้
1. ประเภทของกิจกรรมชุมนุม การจัดการกิจกรรมชุมนุมของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ได้แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้
ก. กิจกรรมชุมนุมเชิงวิชาการ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระ เป็นกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ ด้านวิชาการในรายวิชาต่าง ๆ ทั้งในห้องเรียน และเสริมบทเรียน เพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างชุมนุมที่จัดตั้งขึ้น เช่น
• ชุมนุมคอมพิวเตอร์
• ชุมนุมห้องสมุด
ข. กิจกรรมชุมนุมเพื่อพัฒนาสังคม และจิตใจ เป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมนิสัยการทำประโยชน์เพื่อสังคม เพื่อช่วยให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง ปลูกฝังคุณลักษณะนิสัยที่เอื้อต่อการทำประโยชน์เพื่อสังคม เห็นแนวทางที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคม และสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ ตัวอย่างชุมนุมที่จัดตั้งขึ้น เช่น
• ชุมนุมพระพุทธศาสนา
• ชุมนุมศิลปกรรม
ค. กิจกรรมชุมนุมเพื่อการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมประสบการณ์ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น และเข้าใจกระบวนการประกอบอาชีพ ในระหว่างเรียนเพื่อนำไปเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ตัวอย่างชุมนุมที่จัดตั้งขึ้น เช่น
• ชุมนุมอาหารและเครื่องดื่ม
• ชุมนุมพิราบน้อย
• ชุมนุมสหกรณ์
• ชุมนุมนักพูดในที่ชุมชน

ง. กิจกรรมชุมนุมเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงการรักษา ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นักเรียนรู้จัก แลกเปลี่ยน เผยแพร่ และเสริมสร้างความรู้ความคิด ประสบการณ์ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการช่วยเหลือหรือในการให้ความร่วมมือในกิจกรรมขององค์การภายใน และภายนอก โรงเรียนทางด้านสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างชุมนุมที่จัดตั้งขึ้น เช่น
• ชุมนุมดำน้ำและการอนุรักษ์
จ. กิจกรรมชุมนุมเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความภูมิใจในความเป็นไทยอันมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตระหนักถึงความสำคัญและความเป็นมาของชาติไทย และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ตัวอย่างชุมนุมที่จัดตั้งขึ้น เช่น
• ชุมนุมดนตรีไทย
• ชุมนุมนาฎศิลป์
• ชุมนุมดนตรีไทยลูกทุ่ง
ฉ. กิจกรรมชุมนุมเพื่อพัฒนาทักษะด้านกีฬา ตัวอย่างเช่น
• ชุมนุมฟุตบอลและฟุตซอลท์
• ชุมนุมเปตอง

• ชุมนุมจักรยานเสือภูเขา
• ชุมนุมกรีฑา
• ชุมนุมบาสเกตบอล
• ชุมนุมตะกร้อ
• ชุมนุมว่ายน้ำ
• ชุมนุมเครื่องบินเล็ก
• ชุมนุมศิลปะป้องกันตัว

2. หลักเกณฑ์การจัดตั้งชุมนุม โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ได้จัดกิจกรรมชุมนุมในทุกช่วงชั้น โดยจัดอย่างหลากหลาย เพื่อสนองความสนใจ ความถนัด เหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของ หรือหากนักเรียนมีความสนใจตรงกันรวมกลุ่มกัน สามารถเสนอจัดตั้งชุมนุมตามระเบียบการจัดตั้งชุมนุมของโรงเรียน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
2.1 ครู หรือนักเรียน ที่มีความประสงค์จัดตั้งชุมนุม เขียนโครงการเสนอต่อหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อพิจารณา
2.2 กิจกรรมชุมนุมที่ขออนุญาตจัดตั้งนั้น ต้องมีครูที่ปรึกษาชุมนุมอย่างน้อย 1 คน แต่ไม่เกิน 3 คน
2.3 ขนาดของชุมนุม ประกอบด้วยสมาชิกในอัตราส่วนนักเรียนต่อครูที่ปรึกษา 25 : 1 (ยืดหยุ่นได้ที่อัตรา 20 – 30 : 1)

3. หน้าที่ของครูที่ปรึกษาชุมนุม ครูทุกคนต้องเป็นครูที่ปรึกษาชุมนุมตามคำขอของผู้เรียนหรือตามที่โรงเรียนมอบหมาย ซึ่งจะต้องมีบทบาทดังต่อไปนี้
3.1 ปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศให้นักเรียนเข้าใจเป้าหมายและวิธีการดำเนินการจัดกิจกรรมชุมนุม
3.2 เลือกตั้งคณะกรรมการ จัดให้นักเรียนเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินกิจกรรมชุมนุม
3.3 ส่งเสริมการจัดทำแผนงาน/โครงการ ส่งเสริมให้นักเรียนที่เป็นสมาชิกของกิจกรรมร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดทำแผนงาน/โครงการและปฏิทินการปฏิบัติงานอย่างอิสระ
3.4 ประสานงาน ประสานงานและอำนวยความสะดวกในด้านทรัพยากรตามความเหมาะสม
3.5 ให้คำปรึกษา ให้คำปรึกษา ดูแล ติดตามการจัดกิจกรรมของนักเรียนให้เป็นไปตามแผนงานด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย
3.6 ประเมินผล ประเมินผลการเข้าร่วมและการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน
3.7 สรุปและรายงานผล สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรมต่อหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

การประเมินผล
การประเมินผลการจัดกิจกรรมชุมนุม เป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่ง สำหรับการผ่านช่วงชั้นหรือจบหลักสูตร นักเรียนต้องเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมชุมนุม ตลอดจนผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดตามแนวประเมินดังนี้
1. ประเมินการร่วมกิจกรรมชุมนุมตามวัตถุประสงค์ของชุมนุม ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ตามสภาพจริงให้ได้ผลการประเมินที่ถูกต้อง ครบถ้วน
2. ครูที่ปรึกษากิจกรรมชุมนุม และนักเรียนจะมีบทบาทในการประเมินดังนี้
2.1 ครูที่ปรึกษากิจกรรมชุมนุม
(1) ต้องดูแลและพัฒนานักเรียนให้เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
(2) ต้องรายงานเวลา และพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน
(3) ต้องศึกษาติดตาม และพัฒนานักเรียนในที่กรณีนักเรียนไม่เข้าร่วมกิจกรรม
2.2 นักเรียน
(1) ปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์
(2) มีหลักฐานแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า ร้อยละ80 ของเวลาเรียนทั้งหมด พร้อมทั้งแสดงผลการปฏิบัติกิจกรรม และพัฒนาการด้านต่าง ๆ
(3) ถ้าไม่เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ ต้องปฏิบัติกิจกรรมเพิ่มเติมตามที่ครูที่ปรึกษากิจกรรมมอบหมาย
3. เกณฑ์การผ่านกิจกรรมชุมนุม
3.1 นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด
3.2 นักเรียนผ่านจุดประสงค์ที่สำคัญของแต่ละกิจกรรม
3.3 นักเรียนต้องผ่านเกณฑ์ประเมินตามข้อ 3.1 และ 3.2 จึงได้ผลการเรียน “ผ” ในกิจกรรมชุมนุม

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

วาระการประชุมผู้ปกครองนักเรียนระดับห้องเรียน

วาระการประชุมผู้ปกครองนักเรียนระดับห้องเรียน
โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา
วันเสาร์ที่ 24 พ.ค.2551
เริ่มประชุม 10.30 น.
วาระที่ 1 คุณครูที่ปรึกษาแนะนำตัวเองและกล่าวเปิดประชุม
วาระที่ 2 ผู้ปกครองแนะนำตัวเองให้ผู้ปกครองอื่นๆ ในห้องรู้จักกัน
วาระที่ 3 ผู้ปกครองกรอกแบบฟอร์มการเยี่ยมบ้านนักเรียน
วาระที่ 4 ผู้ปกครองให้ข้อเสนอแนะการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน
วาระที่ 5 เลือกคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน ประกอบด้วย ประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน รองประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน กรรมการและเลขานุการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน รวม 3 ตำแหน่ง
วาระที่ 6 คุณครูที่ปรึกษากล่าวขอบคุณผู้ปกครอง และปิดประชุม
(ฝ่ายโสตทัศนูปกรณ์ ถ่ายรูป คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน)
ปิดประชุมไม่เกิน 11.30 น.

หมายเหตุ เชิญประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียนของทุกห้อง ประชุม ณ ห้องประชุมโรงเรียน เพื่อเลือกคณะกรรมการตำแหน่งต่างๆ ในคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน เวลา 11.30 น.

รายชื่อคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองของห้อง..........................................................
ชื่อ-สกุล
ตำแหน่ง
โทรศัพท์

.............................................................
ประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองห้อง

..................................................................................................
รองประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองห้อง

...................................................................................................
กรรมการและเลขานุการ



ลงชื่อ................................................................
(...................................................
ครูที่ปรึกษา
........./........../........


ใบความรู้สำหรับคุณครูที่ปรึกษา

บทบาทคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
1. ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน
2. สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียน
3. จัดการศึกษาเสริมให้แก่นักเรียนตามที่ผู้ปกครองต้องการ

คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้อง ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการเครือข่ายของห้อง รองประธานคณะกรรมเครือข่ายของห้อง คณะกรรมการและเลขานุการของห้อง รวม 3 คน (ประธานคณะกรรมการเครือข่ายของห้องจะเป็นคณะกรรมการเครือข่ายระดับโรงเรียนโดยตำแหน่ง)

คณะกรรมเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน ประกอบด้วย คณะกรรมการจำนวนทั้งสิ้น 26 คน (คือประธานคณะกรรมการเครือข่ายของแต่ละห้อง) และทั้ง 26 คน ต้องเลือกประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน จำนวน 1 คน และตำแหน่งอื่นๆ ตามที่เห็นเหมาะสม

ประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน จะได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารโรงเรียนอีก 1 ตำแหน่ง ในส่วนของผู้แทนผู้ปกครอง

เอกสารประกอบการประชุมผู้ปกครองประจำปีการศึกษา 2551

เอกสารประกอบ
การประชุมผู้ปกครองประจำปีการศึกษา 2551
ของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา
วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2551
ณ โรงพลศึกษา
กำหนดการ
เวลา 08.30 น. - ผู้ปกครองลงทะเบียน ณ บริเวณโรงพลศึกษา
เวลา 09.00 น. - ผู้อำนวยการโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา กล่าวต้อนรับ
- หัวหน้างานฝ่ายต่างๆ ชี้แจง
เวลา 10.30 น. - ผู้ปกครองแยกย้ายพบครูที่ปรึกษาประจำชั้น ตามห้องเรียนต่างๆ ของลูก
- ผู้ปกครองแต่ละห้องเลือกคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน
เวลา 11.30 น. - เชิญประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียนของทุกห้อง ประชุม ณ ห้องประชุมโรงเรียน เพื่อเลือกคณะกรรมการตำแหน่งต่างๆ ในคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน
เวลา 12.00 น. - เสร็จสิ้นการประชุม

นโยบายของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ บูรณวิทยา เกี่ยวกับเด็กปี 2551 (ที่สำคัญ)
1. เน้นให้เด็กเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความรับผิดชอบและเอื้ออาทรต่อสังคม
2. เน้นให้เด็กเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตนเอง ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
3. เน้นให้เด็กสามารถคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจได้ในสถานการณ์ต่างๆ
4. เน้นให้เด็กสามารถค้นคว้าหาความรู้ได้เอง โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย และรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต
5. เน้นให้เด็กเป็นคนพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี
6. เน้นการปลูกจิตวิญญาณไทย เทิดทูน และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และราชบัลลังก์

ความมุ่งหวังที่มีต่อเด็กนักเรียน “เก่งเรียนรู้ เก่งกิจกรรม เก่งเทคโนโลยี”

ผู้บริหารโรงเรียน
ผู้รับใบอนุญาต พลโทไกรศิริ บุรณศิริ เจ้ากรมการทหาช่าง
ผู้จัดการ พลตรีปัฐมพงศ์ ประถมภัฎ ผู้บัญชาการกองพลทหารช่าง
ผู้ช่วยผู้จัดการ(1) พันเอกกรยุทธ วัฒนวรางกูร รองผู้บัญชาการกองพลทหารช่าง
ผู้ช่วยผู้จัดการ(2) พันเอกชัชวาลย์ เกิดสมบูรณ์ ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 11
ผู้อำนวยการ พันเอกสุชาต จันทรวงศ์ (โทร.081-434-8777)

ขอความร่วมมือผู้ปกครองในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. ดูแลให้นักเรียนมาโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ และไปโรงเรียนให้ทันเวลา นักเรียนที่ขึ้นรถโดยสารรับ-ส่งนักเรียน ต้องตรงเวลา
2. ดูแลให้นักเรียนแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน
3. ไม่ควรให้นักเรียนใส่เครื่องประดับที่มีค่าไปโรงเรียน
4. หมั่นสอบถามหรือดูงานของนักเรียนที่ครูมอบให้มาทำเป็นการบ้าน
5. ไม่ควรให้นักเรียนหยุดเรียนโดยไม่จำเป็น และหากมีความจำเป็นให้เขียนใบลาตามแบบที่โรงเรียนกำหนด
6. เครื่องเรียนและอุปกรณ์การเรียนต้องจัดหาให้ครบตามที่กำหนด
7. กวดขันเรื่องการกลับบ้านของนักเรียนให้ตรงเวลา
8. หมั่นสังเกตการณ์คบเพื่อนของนักเรียน
9. ดูแลการใช้จ่ายของนักเรียนให้เป็นไปด้วยความมัธยัสถ์ หากมีการอ้างอิงชื่อโรงเรียนแล้วมาขอเงินโดยไม่มีเอกสาร ให้โทรศัพท์ถามครูที่ปรึกษาประจำชั้นได้ทันที
10. ตรวจสมุดรายงานและผลการสอบที่โรงเรียนส่งมาให้ทุกครั้ง
11. หากนักเรียนแจ้งท่านว่ามีปัญหากับโรงเรียนหรือครู ขอให้โปรดรับฟังและสอบถามทางโรงเรียนให้แน่ชัดก่อนที่จะสรุปหรือตัดสินใจ
12. การชำระเงินค่าบำรุงการศึกษาทุกครั้ง หากท่านมอบให้นักเรียนไปชำระ โปรดเรียกใบเสร็จรับเงินทุกครั้งและเก็บไว้เป็นหลักฐาน
13. เพื่อความสะดวกในการติดต่อ หากท่านย้ายที่อยู่หรือเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ โปรดแจ้งให้โรงเรียนทราบในทันที
14. พึงระลึกเสมอว่า เมื่อเด็กของท่านเข้าโรงเรียนแล้ว มิใช่ว่าท่านหมดหน้าที่ในการอบรมเด็กของท่าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูแต่ฝ่ายเดียว ท่านจะต้องให้ความร่วมมือกับครูอย่างใกล้ชิดด้วย ็นหลักฐาน การหมั่นแวะมาเยี่ยมโรงเรียนพบปะกับครูย่อมเป็นผลดีแก่เด็กของท่าน
15. การติดต่อขอพบนักเรียนในเวลาเรียน ต้องติดต่อที่ฝ่ายธุรการ
16. การขอรับนักเรียนกลับบ้านหรือไปทำธุระข้างนอก ท่านต้องมารับด้วนตนเอง โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นมารับแทน
17. ห้ามผู้ปกครองหรือบุคคลอื่น เข้าไปพบนักเรียนตามอาคารเรียน หรือห้องเรียน
18. ผู้ปกครองต้องให้ความร่วมมือในการเสียสละเวลามาพบครูหรือฝ่ายต่างๆ ที่เชิญท่านมาพบ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมนักเรียนตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนที่จะสายไป

บทบาทคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
1. ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน
2. สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียน
3. จัดการศึกษาเสริมให้แก่นักเรียนตามที่ผู้ปกครองต้องการ

คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้อง ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการเครือข่ายของห้อง รองประธานคณะกรรมเครือข่ายของห้อง คณะกรรมการและเลขานุการของห้อง (ประธานคณะกรรมการเครือข่ายของห้องจะเป็นคณะกรรมการเครือข่ายระดับโรงเรียนโดยตำแหน่ง)

คณะกรรมเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน ประกอบด้วย คณะกรรมการจำนวนทั้งสิ้น 26 คน (คือประธานคณะกรรมการเครือข่ายของแต่ละห้อง) และทั้ง 26 คน ต้องเลือกประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน จำนวน 1 คน และตำแหน่งอื่นๆ ตามที่เห็นเหมาะสม

ประธานคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน จะได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารโรงเรียนอีก 1 ตำแหน่ง ในส่วนของผู้แทนผู้ปกครอง

บทบาทของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการโรงเรียน
1. ส่งเสริม สนับสนุน ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะแก่โรงเรียน เพื่อพัฒนาแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียน
2. เสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบายและแผนพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน
3. ส่งเสริมให้มีทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสศึกษา
4. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างสัมพันธภาพ และการเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน

คณะกรรมการส่งเสริมกิจการโรงเรียน ประกอบด้วย ผู้บังคับหน่วยต่างๆ ภายในค่ายภาณุรังษีและค่ายบุรฉัตร
อบอุ่น ปลอดภัย ในค่ายบุรฉัตร
www.buarmy.com

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

วันวิสาขบูชา

วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือราวเดือนพฤษภาคม แต่หากตรงกับปีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน วันวิสาขบูชาจะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ กลางเดือน ๗ หรือราวเดือนมิถุนายน
วิสาขบูชา ย่อมาจากคำว่า “วิสาขปุรณมีบูชา” แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ (คือเดือน ๖) ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ๓ ประการ ในวันวิสาขบูชา ดังนี้

๑. เป็น
วันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ ลุมพินีสถาน เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี เมื่อพระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางได้รับพระบรมราชานุญาต จากพระสวามี ให้แปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นพระนครเดิมของพระนาง เพื่อประสูติในตระกูลของพระนางตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ครั้นพระกุมารประสูติได้ ๕ วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ" ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ออกบวช จนบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ (ญาณอันประเสริฐสูงสุด) สำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงถือว่าวันนี้เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า

๒. เป็น
วันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อนุตตรสัมโพธิญาณ ณ ร่มพระศรีมหาโพธิบัลลังก์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี การตรัสอริยสัจสี่ คือของจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ของพระพุทธเจ้า เป็นการตรัสรู้อันยอดเยี่ยม ไม่มีผู้เสมอเหมือน วันตรัสของพระพุทธเจ้า จึงจัดเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่ให้เกิดมีพระพุทธเจ้าขึ้นในโลกชาวพุทธทั่วไป จึงเรียกวันวิสาขบูชาว่า วันพระพุทธ(เจ้า) อันมีประวัติว่า พระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญเพียรต่อไป ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทรงเริ่มบำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัย เรียกว่าการเข้า "ฌาน" เพื่อให้บรรลุ "ญาณ" จนเวลาผ่านไปจนถึง ... ยามต้น : ทรงบรรลุ "ปุพเพนิวาสานุติญาณ" คือทรงระลึกชาติในอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่น ยามสอง : ทรงบรรลุ "จุตูปปาตญาณ" คือการรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยามสาม : ทรงบรรลุ "อาสวักขญาณ" คือรู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจสี่ ( ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ) ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ ซึ่งขณะนั้น พระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา
ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ อริยสัจ ๔ หรือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่ ๑. ทุกข์ คือ ความลำบาก ความไม่สบายกายไม่สบายใจ ๒. สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ๓. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ และ ๔. มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งทุกข์ ทั้ง ๔ ข้อนี้ถือเป็นสัจธรรม เรียกว่า อริยสัจ เพราะเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทรงค้นพบ เป็นสัจธรรมชั้นสูง ประเสริฐกว่าสัจธรรมสามัญทั่วไป

๓. เป็นวันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ร่มไม้รัง (ต้นสาละ) คู่ ในสาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ ใกล้เมืองกุสินารา เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป) การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ก็ถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลกเพราะชาวพุทธทั่วโลกได้สูญเสียดวงประทีปของโลก เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญชาวพุทธทั่วไปมีความเศร้าสลดเสียใจและอาลัยสุดจะพรรณนา อันมีประวัติว่าเมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรมมาเป็นเวลานานถึง ๔๕ ปี ซึ่งมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ในระหว่างนั้นทรงประชวรอย่างหนัก ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน ๖ พระพุทธองค์กับพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ก็ไปรับภัตตาหารบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ ตามคำกราบทูลนิมนต์ พระองค์เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะตั้งใจทำถวาย ก็เกิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีนั้น ได้มีปริพาชกผู้หนึ่ง ชื่อสุภัททะขอเข้าเฝ้า และได้อุปสมบทเป็นพระพุทธสาวกองค์สุดท้าย เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีเพ็ญเดือน ๖ นั้น
วันวิสาขบูชา จึงนับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ ที่มีต่อปวงมนุษย์และสรรพสัตว์อันหาที่สุดมิได้
การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา จุดมุ่งหมายในการประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา เพื่อรำลึกถึงพระวิสุทธิคุณพระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ อีกทั้งเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ทั้ง ๓ ประการ ที่มาบังเกิดในวันเดียวกัน และนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ
พุทธกิจ ๕ ประการ
๑. ตอนเช้า เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ คือเสด็จไปโปรดจริง เพราะทรงพิจารณาเห็นตอนจวนสว่างแล้ว ว่าวันนี้มีใครบ้างที่ควรไปโปรดทรงสนทนา หรือแสดงธรรมให้ละความเห็นผิดบ้าง เป็นต้น ๒. ตอนบ่าย ทรงแสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนที่มาเฝ้า ณ ที่ประทับ ซึ่งปรากฏว่าไม่วาพระองค์จะประทับอยู่ที่ใด ประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่าตลอดถึง ผู้ปกครอง นครแคว้นจะชวนกันมาเฝ้าเพื่อสดับตับพระธรรมเทศนาทุกวันมิได้ขาด ๓. ตอนเย็น ทรงเเสดงโอวาทแก่ภิกษุสงฆ์ทั้งมวลที่อยู่ประจำ ณ สถานที่นั้นบางวันก็มีภิกษุจากที่อื่นมาสมทบด้วยเป็นจำนวนมาก ๔. ตอนเที่ยงคืน ทรงแก้ปัญหาหรือตอบปัญหาเทวดา หมายถึง เทพพวกต่างๆ หรือกษัตริย์ซึ่งเป็นสมมติเทพ ผู้สงสัยในปัญญาและปัญหาธรรม ๕. ตอนเช้ามืด จนสว่าง ทรงพิจารณาสัตว์โลกที่มีอุปนิสัยที่พระองค์จะเสด็จไปโปรดได้ แล้วเสด็จไปโปรดโดยการไปบิณฑบาตดังกล่าวแล้วในข้อ ๑
โดยนัยดังกล่าวมานี้พระพุทธองค์ทรงมีเวลาว่าอยู่เพียงเล็กน้อยตอนเช้าหลังเสวยอาหารเช้าแล้ว แต่ก็เป็นเวลาที่ต้องทรงต้อนรับอาคันตุกะ ผู้มาเยือนอยู่เนืองๆ เสวยน้อย บรรทมน้อย แต่ทรงบำเพ็ญพุทธกิจมาก ตลอดเวลา ๔๕ พรรษานั้นเอง ประชาชนชาวโลกระลึกถึงพระคุณของพระองค์ดังกล่าวมาโดยย่อนี้ จึงถือเอาวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระองค์เป็นวันสำคัญ จัดพิธีวิสาขบูชาขึ้นในทุกประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา
ธรรมเนียมการปฏิบัติในวันวิสาขบูชา
เมื่อวันวิสาขบูชาเวียนมาถึงในรอบปี พุทธศาสนาชนไม่ว่าจะเป็นบรรพชิต (พระสงฆ์ สามเณร) หรือ ฆราวาส (ผู้ครองเรือน) ทั่วไป จะร่วมกันประกอบพิธีเป็นการพิเศษทำการสักการบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณา พระปัญญาคุณ และพระวิสุทธิคุณ ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นดวงประทีปโลก เมื่อวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงในวันเดียวกัน ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งในรอบปี คือ เวียนมาบรรจบในวันเพ็ญวิสาขบูชา กลางเดือน ๖ ประมาณเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายนของไทยเรา ชาวพุทธทั่วโลกจึงประกอบพิธีสักการบูชา การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา แบ่งออกเป็น ๓ พิธี คือ ๑.พิธีหลวง (พระราชพิธี) ๒.พิธีราษฎร์ (พิธีของประชาชนทั่วไป) ๓.พิธีของพระสงฆ์ (คือพิธีที่พระสงฆ์ประกอบศาสนกิจเนื่องในวันสำคัญวันนี้) การประกอบพิธีและบทสวดมนต์ในวันวิสาขบูชา ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการประกอบพิธีใน
วันมาฆบูชา ๑. ทำบุญใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ๒. ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา ๓. ไปเวียนเทียน ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา ๔. จัดแสดงนิทรรศการ ประวัติ หรือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา ๕. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน วัดและสถานที่ราชการ
อ้างอิง
ประเพณี พิธีมงคล และวันสำคัญของไทย. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก, 2539. ประเพณีและพิธีมงคลไทย. กรุงเทพฯ : ธรรมบรรณาคาร, 2518.